นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบสัญญาร่วมทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ส่วนต่อขยาย) ช่วงแคราย – มีนบุรี ที่จะเพิ่มระยะทางเชื่อมต่อจากสถานีบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ สถานีศรีรัช เข้าไปยังเมืองทองธานี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.)
ขณะเดียวกัน รฟม.จะทำร่างสัญญาดังกล่าวเสนอสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทำการตรวจสอบ หลังจากนั้นจะผนวกรวมกับผลการเจรจา ก่อนเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา หากเห็นชอบคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการดังกล่าวได้ภายในเดือน ก.ค. – ส.ค.นี้ และเริ่มงานก่อสร้างทันที
“ส่วนต่อขยายเพิ่มเติม 3 กิโลเมตรนี้เป็นข้อเสนอของทางเอกชน โดยเอกชนก็จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ในส่วนของ รฟม.จะช่วยในเรื่องของการเวนคืนที่เพิ่มเติม แต่ค่าใช้จ่ายชดเชยเอกชนจะรับผิดชอบ รวมอยู่ในวงเงินที่เอกชนเคยประเมินใช้งบก่อสร้างส่วนต่อขยายเพิ่มเติมราว 3,379 ล้านบาท”
นายภคพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย หากสามารถลงนามและเริ่มงานก่อสร้างได้ตามคาดการณ์ภายในปีนี้ ก็คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการล่าช้ากว่าสายสีชมพูเส้นหลัก ช่วงแคราย – มีนบุรี ในปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและเตรียมจะเปิดให้บริการปลายปี 2564 โดยส่วนต่อขยายนี้ก็คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2566
นอกจากนี้ผลการศึกษารถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย คาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มปริมาณผู้โดยสารเข้าสู่ระบบได้อีกประมาณ 10% จากเดิมที่ประเมินว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นหลัก จะมีผู้โดยสารใช้บริการราว 1.4 แสนเที่ยวคนต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ รฟม.ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เป็นข้อเสนอของ บริษัท นอร์ท เทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน โดยมีการนำเสนอจะลงทุน 3,379 ล้านบาท สร้างสถานีรถไฟฟ้าให้บริการเพิ่มเติม จำนวน 2 สถานีจากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม.