ลุ้นซอฟต์โลนสู้โคโรนา  

13 มี.ค. 2563 | 09:15 น.

ธนาคารเผยลูกค้าเก่าหนี ซบแบงก์ใหม่ เปิดช่องรีไฟแนนซ์ดูดลูกค้าเกรดเอ ประวัติดี ไม่โกง หรือใช้เงินผิดวัตถุประสงค์  มุ่งคุณภาพมากกว่าอัตราเติบโต ลุ้นซอฟต์โลนกว่าแสนล้านบาทจากออมสินต้นทุน 0.1% หวังอัดสภาพคล่องต่อสายป่านประคองลูกค้าไม่มียอดขาย แย้มรัฐบีบปล่อยกู้ตํ่ากว่า 3%

สมาคมธนาคารไทย ออกประกาศเกี่ยวกับมาตรการของธนาคารสมาชิก เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา(โควิด-19) ทั้งการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6-18 เดือน หรือขยายเวลาชำระหนี้ 1-5 ปี ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ฟรีค่าธรรมเนียมบริการ พร้อมเติมสภาพคล่องให้กับลูกค้าที่มีความจำเป็น ดังนั้นหลายธนาคารจึงเตรียมทบทวนเป้าสินเชื่อปี 2563 ตามเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากเป้าเติบโตสินเชื่อของแต่ละแห่ง เช่น ไทยพาณิชย์ 3-5% กรุงศรีอยุธยา 5%  กรุงเทพ 3-5% กรุงไทย 3-5% และกสิกรไทย 4-6%

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงดำเนินตามแผนที่ตั้งไว้ ไม่ได้ปรับประมาณการหรือปรับแผนแต่อย่างไร และธนาคารพร้อมสนับสนุนลูกค้าเต็มที่  เพราะส่วนตัวมองการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ว่า อาจจะเป็นผลดีในแง่การย้ายฐานหรือลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

ผมคิดว่าตอนเกิดวิกฤตินํ้าท่วมใหญ่ ซึ่งกระทบต่อซัพพลายเชนค่อนข้างเยอะ เราเห็นลูกค้าย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น ซึ่งผลจากโควิดก็อาจนำไปสู่การย้ายแผนการผลิตก็ได้ เราจึงยังไม่ได้ปรับแผนอะไร

ชาติศิริ โสภณพนิช

 

 

สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากธนาคารขนาดใหญ่ระบุว่า  ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อของธนาคารยังขยายตัวและมีคุณภาพดี ซึ่งความต้องการสินเชื่อส่วนใหญ่ เป็นลูกค้ารายย่อยจากธนาคารอื่นที่ต้องการย้ายมาใช้บริการกับธนาคาร จึงเป็นโอกาสให้ธนาคารรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่สำคัญ แต่ก็ใช่ว่า ลูกค้าทุกรายที่เข้ามาจะได้รับวงเงินสินเชื่อ เพราะธนาคารต้องเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพดีด้วย เช่น เป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ หรือประวัติการใช้วงเงินกู้ไม่ผิดวัตถุประสงค์ ไม่โกง เหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ธนาคารเลือกลูกค้าก่อนจะรับรีไฟแนนซ์

ช่วงนี้แบงก์ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมากกว่าอัตราเติบโตสินเชื่อ ซึ่งแม้นโยบายแบงก์จะบอกว่า ปรับเป้าสินเชื่อ แต่ส่วนใหญ่ยังคงยืนเป้าภายใน ซึ่งเป็นที่รับรู้กัน แต่ถือเป็นจังหวะดีที่มีลูกค้ารีไฟแนนซ์มาให้เลือก เพราะธุรกิจมีความหลากหลาย และแม้ว่ากลุ่มธุรกิจจะถูกกระทบ แต่ในแต่ละกลุ่มยังมีผู้ชนะ เพราะประสบการณ์จากวิกฤติก่อนหน้า ทำให้เห็นลูกค้ารายที่รอด จึงเป็นโอกาสในการทำตลาดแต่สำคัญต้อง เลือกลูกค้าดี ซึ่งบรรยากาศไม่ดีแบบนี้ก็เป็นการพิสูจน์ฝีมือ

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาคธนาคารอยู่ระหว่างรอวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า (ซอฟต์โลน)ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้กับธนาคารพาณิชย์ วงเงินเบื้องต้นกว่า 1 แสนล้านบาท โดยออมสินจะปล่อยกู้กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อัตราดอกเบี้ยตํ่า 0.1% เพื่อให้แต่ละธนาคารนำวงเงินดังกล่าวไปปล่อยกู้ต่อกับลูกค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามจะให้ปล่อยกู้ด้วยดอกเบี้ยตํ่ากว่า 3% ซึ่งเป็นอัตราตํ่ากว่าช่วงวิกฤตินํ้าท่วมโดยได้หารือกันก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปรายละเอียดเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าซอฟต์โลนน่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนมีนาคม เพื่ออัดสภาพคล่องต่อสายป่านประคองลูกค้าที่ไม่มียอดขาย

เรายังรอซอฟต์โลนกว่า 1 แสนล้านบาท จากแบงก์ออมสิน โดยกำหนดวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย ซึ่งจะครอบคลุมลูกค้าทั้งรายใหญ่และรายเล็ก แต่รัฐพยายามบีบแบงก์ปล่อยกู้ต่อดอกเบี้ยที่ตํ่ากว่า 3% ซึ่งทุกคนส่ายหัวและยอมรับสภาพปีนี้ว่าขาดทุนแน่

หน้า 13-14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12-14 มีนาคม 2563