นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขาธิการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจหรือ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เติบโตได้ต่ำกว่าปกติในหลายด้าน ทั้งเรื่องการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว การส่งออก โดยปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดส่งผลทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ของปีนี้ เติบโตได้ต่ำกว่าคาดการณ์พอสมควร และจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งปี 2563
"เศรษฐกิจไทยในวันนี้มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยในไตรมาสแรกมีผลกระทบจากการเบิกจ่ายที่ล่าช้า ส่งผลให้การเติบโตออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน ตรงนี้อยากให้ทุกฝ่ายทำใจ เพราะรัฐบาลก็ทำใจแล้วว่าไตรมาสแรก จะไม่ดี แต่หลังจากนี้ก็หวังว่าไตรมาส 2 ของปี 2563 จะฟื้นตัวได้ จากการใช้จ่ายของรัฐที่กลับมา”นายกอบศักดิ์ กล่าว
ส่วนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ขณะนี้ขยายความรุนแรงมากขึ้น จากเดิมคาดว่าจะจบใน 3 เดือน และจะใช้เวลาฟื้นตัวอีก 3 เดือน ดังนั้นจากนี้คงต้องมาประเมินใหม่ โดยเบื้องต้นคาดว่าสถานการณ์จะจบได้ภายใน 6 เดือน และจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ของปีนี้
ปัจจัยเสี่ยงนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติให้หายไปแล้วกว่า 50% โดยหากผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปได้ ค่อยมาพิจารณาถึงมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงต่อไป
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 Covid-19 อย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะพิจารณาปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลงจากปัจจุบันคาด 2.8%
ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดที่ผ่านมานั้น สำหรับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วบางส่วน แต่ยืนยันว่า จะเอานำปัจจัยดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสไปพิจารณาการตัดสินใจเพิ่มเติมในการประชุมกนง.วันที่ 25 มีนาคมนี้ด้วย