ยักษ์อสังหาฯฮ่องกง ท้าทายปัจจัยลบ ลุยคอนโด-มิกซ์ยูส

05 มี.ค. 2563 | 10:10 น.

ทุนอสังหาฯแดนฮ่องกง ริสแลนด์ ประเทศไทย เดินหน้าลุยเปิดอีก 4 โครงการคอนโด-มิกซ์ยูส มูลค่ารวมกว่า 20,900 ล้านบาท ประเดิมคอนโดมิเนียมลักชัวรี ใจกลางอโศก คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23

นายเนี่ย ซงเชียน  ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการขายและการตลาด ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติฮ่องกง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี2563 นี้ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายๆด้าน ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระดับโลกจากสงครามการค้าที่ส่งผลไปยังหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยค่าเงินบาทที่แข็งตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยังซ้ำเติมให้เศรฐกิจยิ่งซบเซา 

 

ปัจจุบัน ริสแลนด์ ลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน 7 ประเทศ รวม 15 โครงการ อาทิประเทศสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย อังกฤษ เวียดนาม และประเทศไทย รวมมูลค่าโครงการทั่วโลกประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในปี2563 ริสแลนด์ ตั้งเป้ารายได้จากทั่วโลก เพิ่มขึ้น 50% ด้วยกลยุทธ์ ”Think Global, Act Local” ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “Be the Change, Create the Future” สำหรับ ริสแลนด์ ประเทศไทย ในปีนี้มีแผนเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 20,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเนียม 2 โครงการและโครงการ Mixed use 2 โครงการ โดยมุ่งเน้นเปิดโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ การคมนาคมสะดวกสบาย ในระดับราคาที่เอื้อมถึง ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการอย่างแท้จริง 

 

ปีผ่านมา บริษัทฯ เปิดตัวโครงการ 2 โครงการ ได้แก่ คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรีปัจจุบันขายได้แล้วกว่า 50% และโครงการ The LIVIN เพชรเกษม ยอดจองจากการเปิดขายเฟสแรกที่มูลค่ารวม 750 ล้านบาท และสามารถขายไปได้มากถึง700 ล้านบาท ทำให้ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 2 โครงการรวมกว่า 2,400 ล้านบาท 

 

ปี 2563 โครงการ คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23 เป็นโครงการแรกที่เปิดตัวมูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางอโศกในซอยสุขุมวิท 23 ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท คาดว่าสามารถตอบสนองช่องว่างของตลาดได้  

 

 

ยักษ์อสังหาฯฮ่องกง ท้าทายปัจจัยลบ ลุยคอนโด-มิกซ์ยูส

ความโดดเด่นของโครงการออกแบบอาคารภายนอกแบบโมเดิร์น สวยงาม และมีเอกลักษณ์เนื่องจากเป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านซอยสุขุมวิท 23 สำหรับห้องพักประกอบด้วย 5 ประเภทได้แก่ 1 ห้องนอนขนาด 29 - 30 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน เอ๊กซ์ตร้าขนาด 41 - 43 ตารางเมตร, 2 ห้องนอนขนาด 57 - 60 ตารางเมตร, ดับเบิ้ลสเปซขนาด 47 - 95 ตารางเมตร และเพนท์เฮ้าส์ขนาด 79 - 99 ตารางเมตร ทั้งนี้วางแผนเปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่20 มีนาคมนี้

 

นางสาวมณีกานต์ อิสรีย์โกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดและสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิท  ที่มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท มีการเปิดขายใหม่ปรับตัวลดลงจำนวน 8,795 ยูนิต จากปี 2561 ที่มีการเปิดขายอยู่ที่ 19,691 ยูนิต มียูนิตคงค้างลดลงจากปี2561 ในอัตรา 3% และในปี 2563 นี้คาดการณ์ว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป จะมีสัดส่วนในตลาดอยู่ที่ 17% เท่ากับปีก่อน จึงสรุปได้ว่าภาพรวมตลาดคอนโดนิเนียมลักซ์ชัวรี ยังคงไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลอโศก ที่ยังมีอัตราการดูดซับของตลาดกว่า82% และมีโครงการใหม่ที่เข้ามาในตลาดน้อยลง ทำให้คอนโดในกลุ่มนี้มีการตอบรับที่ค่อนข้างดี

 

นางสาวมณีกานต์ กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในช่วง 3 ถึง 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง และเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนในแง่ต่างๆลดลงพอสมควร และในช่วง 1-2 ปีนี้กลุ่มนักลงทุนนักเก็งกำไรได้หายไปจากตลาดบางส่วน จากปัจจัยต่างๆ ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก และ นโยบายต่างๆของภาครัฐที่ส่งผลกระทบทางตรงกับลูกค้ากลุ่มนี้ และพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่มีอายุในช่วง 25 ถึง 35 ปี ชอบและเลือกซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ที่มีการออกแบบที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของการทำงานและการใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมือง ส่งผลให้คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี ในเขตกลางเมือง กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย และ จากการท่องเที่ยวไทยที่มีการขยายตัวสูง ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ที่หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ในช่วง 3 ถึง 5 ปีที่ผ่านมา มียอดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจและซื้อที่อยู่อาศัยในบ้านเราจำนวนไม่น้อย โดยมีเม็ดเงินต่อปีประมาณ 37,561 ล้านบาทในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่นับการซื้อเพื่อการลงทุน เก็งกำไร รวมถึงการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในรูปแบบอื่นๆ ทำให้ศาสตร์ในการมองพฤติกรรมผู้บริโภคปรับเปลี่ยนตามบริบทของสังคมและกาลเวลามากขึ้นต้องประยุกต์หลายศาสตร์ และข้อมูลจำนวนมากเข้ามาเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน

ยักษ์อสังหาฯฮ่องกง ท้าทายปัจจัยลบ ลุยคอนโด-มิกซ์ยูส