นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า มีผู้ได้รับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว เป็นจำนวนมากและโรคดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญต่อสุขภาพความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยเฉพาะพนักงานบนขบวนรถ สถานี ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 การรถไฟฯ จึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานการรถไฟฯ
สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย 1. ไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ลาเพื่อเดินทางไปยัง หรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ประเทศไต้หวัน ประเทศมาเลเซีย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐอิตาลี ทั้งนี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง 2. พนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ ทีได้รับการอนุมัติจากการรถไฟฯ แล้ว ขอให้ทบทวนความจำเป็นของการเดินทาง และแนะนำให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน 3. กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ ให้ขออนุมัติผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นกรณี ๆ ไป 4. กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ เดินทางไปยังประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามข้อ 1 และ 2 หรือ ตามประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของ ร.ฟ.ท.เดินทางถึงประเทศไทย ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ 1.ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป 1 ระดับ เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานต่อการรถไฟฯ 2.ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ หยุดงานเป็นเวลา 14 วัน โดยใช้วันลาของตนเอง เพื่อเฝ้าระวังอาการป่วย และให้รายงานอาการต่อผู้บังคับบัญชาทุกวันในช่วงเวลาดังกล่าว 3. กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามข้อ 1 โดยคำสั่งของการรถไฟฯ ให้ไปปฏิบัติราชการ ให้สามารถทำงานที่บ้าน (Work at home) จนครบ 14 วัน4.กรณีพนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับ มีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจเร็ว หายใจลำบาก) ต้องเข้ารับการตรวจ ตามแนวทางการดูแลผู้ป่วย หรือผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 5. การรถไฟฯ ขอให้พนักงานและลูกจ้างของการรถไฟฯ ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าเป็นนโยบาย ข้อสั่งการ เร่งด่วนสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ร.ฟ.ท. ได้เน้นย้ำกำชับให้บุคลากรของการรถไฟฯ ทุกระดับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ รวมถึงได้แนะนำให้พนักงานดูแลสุขอนามัยด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลหน้ามืออย่างถูกต้อง เพื่อตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเองและส่วนรวม