เถ้าแก่น้อย ส่ง "ซูเปอร์สแน็ค" รับเทรนด์สุขภาพ

20 ก.พ. 2563 | 11:22 น.

“เถ้าแก่น้อย” สบช่องตลาดสแน็คเพื่อสุขภาพสุดแรง แจ้งเกิดกลุ่มสินค้าใหม่ “ซูเปอร์สแน็ค” รุกตลาด ประเดิมส่ง “เถ้าแก่น้อยกู้ดเดย์ (Good Day)” นำร่องเจาะตลาดสุขภาพ ก่อนทยอยเปิดตัวสินค้ากลุ่ม “Non Seaweed” ต่อเนื่อง

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต จัดจำหน่ายและทำการตลาดสาหร่ายแปรรูปภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” เปิดเผยว่าจากเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจด้านสุขภาพมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะที่เมืองไทยแต่เป็นเมกะเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ โดยในปีที่ผ่านมามีสินค้าใหม่ที่เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงตลาดขนมขบเคี้ยวด้วย ซึ่งเถ้าแก่น้อย ในฐานะเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดขนมขบเคี้ยวสาหร่าย จึงได้กำหนดทิศทางการพัฒนาสินค้า โดยปรับพอร์ตกลุ่มสินค้าใหม่พร้อมสร้างตลาด “Super Snacks” รายแรกของประเทศไทย เพื่อให้ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ

เถ้าแก่น้อย ส่ง "ซูเปอร์สแน็ค" รับเทรนด์สุขภาพ

โดยภายใต้กลุ่มสินค้า “ซูเปอร์สแน็ค” ของเถ้าแก่น้อย จะมีสินค้าหลัก 3 segments ดังนี้ 1.Premium Snack สินค้าหลักที่สำคัญ อาทิ เทมปูระไข่เค็ม ทินเท็นไข่เค็ม ที่คัดสรรวัตถุดิบมาจากธรรมชาติจริง 2.Plant Base Snack ชูธงรบด้วย สาหร่ายที่ถูกนำไปแปรรูปในรูปแบบต่างๆ อาทิ สาหร่ายทอด อบ ย่าง สาหร่ายเทมปูระ และในอนาคตกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอีกหลากหลายประเภทตามต่อมา เป็นต้น 3.Protein Snack สินค้าที่เปิดตัวสู่ตลาดและได้รับความนิยม ได้แก่ ปลาแผ่นปรุงรสทินเท็น ปลาม้วนปรุงรสทินเท็น โรล์

เถ้าแก่น้อย ส่ง "ซูเปอร์สแน็ค" รับเทรนด์สุขภาพ

ทั้งนี้การปรับพอร์ตสินค้าในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดพันธกิจของบริษัทที่จะก้าวสู่บริษัทนวัตกรรม สร้างความสุขให้ผู้บริโภคทั่วโลก ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ เมื่อทุกคนเริ่มมองหาอาหารที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของตัวเอง และเพื่อสิ่งแวดล้อม  จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดของโลก โดยวัตถุดิบหลักพื้นฐานของบริษัทฯ คือ สาหร่าย ซึ่งถือเป็น Super Foods และเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นเเหล่งโปรตีนจากพืชและยังให้เเร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด

สำหรับสินค้ากลุ่มแรกที่ออกมาสร้างตลาดในกลุ่มซูเปอร์สแน็ค (Super Snacks) ในปี 2563 คือ เถ้าแก่น้อยกู้ดเดย์ (Good Day) สุดยอดของขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มี 2 รสชาติ รสคลาสสิค ซี ซอล์ท และรสเผ็ด ซีซอลท์ สูตรลดเกลือ 50% จากสูตรปกติ  โดยเน้นจับกลุ่มเป้าหมาย เป็นคนวัยทำงานที่รักสุขภาพ อายุตั้งแต่ 21-35 ปี สำหรับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ New Categories สินค้ากู้ดเดย์ (Good Day)ทางบริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจรเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค พร้อมกับแคมเปญสื่อสารทางการตลาดทั้ง Online และ Offline โดยนำเสนอผ่าน Music Marketing

เถ้าแก่น้อย ส่ง "ซูเปอร์สแน็ค" รับเทรนด์สุขภาพ

 “ตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2562 รายได้รวมในตลาดสูงถึง 38,000 ล้านบาท ซึ่ง 2 ใน 3 ของการชิงส่วนแบ่งการตลาดคือ ตลาดมันฝรั่งที่ 32.2% และ ตลาดขนมขึ้นรูปที่ 27.4% เถ้าแก่น้อย จึงวางทิศทางการดำเนินงานในการขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็น Non Seaweed มาก และปีนี้เรามีแผนลุยตลาดขนมขึ้นรูป (Extruded Snacks) อย่างจริงจัง โดยจับมือร่วมกับเจ้าแห่งขนมขบเคี้ยวอันดับ 1 ในประเทศเกาหลี โอริออน กรุ๊ป (Orion Group)    ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว มานานกว่า 70 ปี”

สำหรับภาพรวมตลาดสาหร่าย ปี 2562 ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 2,929 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกกลุ่มสินค้าทอด และอบมีสัดส่วนยอดขายที่ลดลง และมาตีตื้นในกลุ่มสินค้าใหม่ประเภทสาหร่ายย่าง อาทิ BigRoll และเทมปูระ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตถึง 18.7% และ 82.7% ตามลำดับ จึงเป็นการจุดประกายให้มีการปรับโครงสร้างกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์เถ้าแก่น้อย ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค  ที่ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น