โศกนาฏกรรมที่ จ.นครราชสีมา เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ต่อเนื่องถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่นำมาซึ่งความเศร้าสลดกับสังคมไทยอีกวาระหนึ่ง เมื่อทหารผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธยิงคู่กรณี ผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ก่อนปล้นปืนและกระสุนจากค่ายทหารไล่กราดยิงผู้บริสุทธิ์ มีผู้เสียชีวิต 30 ราย รวมทั้งผู้ก่อเหตุและมีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย
สาเหตุและมูลเหตุของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณีได้มีการซื้อขายที่ดิน ผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน กลายเป็นแรงจูงใจและความกดดันก่อให้เกิดอาชญากรรมนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ ด้านหนึ่งผู้ก่อเหตุอาจไม่มีช่องทางเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองในช่องทางปกติ
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงแสดงความเสียใจและขอโทษจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และเนื่องจากผู้ก่อเหตุและคู่กรณีมีความสัมพันธ์กันทางบังคับบัญชาและเครือญาติของผู้บังคับบัญชา จึงได้สั่งการเปิดช่องทางโดยตรงให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกเอาเปรียบได้ร้องเรียนมาที่ตนโดยตรง โดยจะทำให้เป็นช่องทางลับที่สุดในการเปิดรับความเห็นไม่ผ่านกองทัพบก ซึ่งจะลงโทษอย่างเต็มขีดความสามารถที่ทำได้และเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาใส่ใจดูแลทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชา
เราเห็นว่าทุกฝ่ายควรมีบทเรียนจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยเฉพาะกองทัพเองก็ต้องเพิ่มความรอบคอบรัดกุม ปิดช่องว่างจุดอ่อนของตัวเอง ทั้งระบบการบังคับบัญชา การควบคุมคลังอาวุธ ในหน่วยงานทหารทั่วทั้งประเทศ หรือคู่มือป้องกันเหตุสุดวิสัยและกระชับขั้นตอนการทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด ป้องกันเหตุซ้ำรอยโศกนาฏกรรมนครราชสีมา
นอกจากนี้อาจจะต้องเพิ่มการศึกษาด้านจิตวิทยา และมีระบบตรวจสอบการทำงานในทุกระดับ ทั้งความพร้อมในด้านจิตใจในการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอตามวาระ รวมทั้งหาแนวทางยกเลิกการทำธุรกิจในกองทัพ ลดหรือเลิก การสร้างแรงจูงใจในการหาประโยชน์อื่น ที่นอกเหนือจากหน้าที่ราชการทหารอาชีพ เหตุโศกนาฏกรรมที่นครราชสีมา จะต้องมีบทเรียนให้กับทุกฝ่ายป้องกัน ร่วมกันแก้ปัญหาไม่ให้ความสูญเสียตามมาหลอกหลอนสังคมไทยซ้ำอีก