แม้หุ้นกลุ่มแบงก์รูดต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว และม.ค.63 ร่วงกว่า 9% จนทำให้ราคาหุ้นหลายตัว ปรับลงต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี ( Book value ) อาทิ หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB ) เมื่อวันที่ 31 ม.ค 63 อยู่ที่ 98 บาท ขณะที่บุ๊คอยู่ที่ 116.34 บาท คิดเป็น 84% ของราคาบุ๊ค ,หุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL) ยืนที่ 144 บาท คิดเป็น 64 % ของราคาบุ๊ค ,หุ้นธนาคารกสิกรไทย ยืนที่ 140.50 บาท คิดเป็น 83% ของราคาบุ๊ค และหุ้นธนาคารกรุงไทย (KTB )ยืนที่ 16.10 บาท คิดเป็น 67% ของราคาบุ๊ค ฯล
แต่น่าสนใจว่าปี 62 กลับเป็นปีที่กลุ่มแบงก์จ่ายผลตอบแทนเงินปันผลสูง เมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ปรับลง โดยเฉพาะงวดครึ่งหลัง จ่ายช่วงปลายเม.ย. - พ.ค. 63 ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย ประกาศจ่ายปันผลปี 62 หุ้นละ 5.00 บาท โดยจ่ายงวดแรกแล้ว 0.50 บาท และงวดปลายปีที่จะจ่าย 30 เม.ย.นี้ อีก 4.50 บาท ใช้วงเงินรวม 11,966 ล้านบาท เพิ่มจากปี 61 ที่จ่ายปันผลหุ้นละ 4.00 บาทหรือเพิ่ม 25%
ธนาคารไทยพาณิชย์ ( SCB ) จ่ายงวดแรกหุ้นละ 1.50 บาท และเตรียมจะจ่ายปันผลระหว่างกาล (กรณีพิเศษ) อีกหุ้นละ 0.75 บาทในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ส่วนงวดครึ่งหลังคาดจ่ายหุ้นละ 4.00 บาทในเดือนพ.ค.63 ( อิงข้อมูลปี 2558- 61 SCB จ่ายงวดครึ่งหลังหุ้นละ 4 บาท) รวมทั้งปีคาดปันผลหุ้นละ 6.25 บาท ใช้เงินรวม 21,222 ล้านบาท สูงสุดในอุตสาหกรรมแบงก์ เทียบกับปี 61 ที่จ่าย 18,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6%
ขณะที่บริษัททุนธนชาตหรือ TCAP จ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 4.00 บาทเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 63 โดยใช้เงินสดที่เหลือจากการควบรวมกับTMB 14,000 ล้านบาท หลังปันผลงวดแรกไปเมื่อต.ค. 62 ที่หุ้นละ 1.20 บาทหรือจ่ายปันผลรวมหุ้นละ 5.20 บาท เป็นเงินปันผลปี 62 รวม 6,059 ล้านบาท เทียบปี61ที่ใช้เงิน 3,029 ล้านบาท หรือเพิ่ม 100%
ส่วนธนาคารกรุงเทพ (BBL ) ปันผลในอัตราหุ้นละ 6.50 บาทต่อปี ต่อเนืองไม่น้อยกว่า 5 ปี (2558- 61) ส่วนปี 62 คาดจะงวดหลังอีก 4.50 บาท ช่วงเดือนพ.ค.นี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.50% ต่อปี ธนาคารใช้วงเงินรวม 12,407 ล้านบาท
เช่นเดียวกับธนาคารทิสโก้ ( TISCO) จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง ผลประกอบการในปี 60 และปี 61 ปันผลหุ้นละ 5.00 บาท และ 7.00 บาท ตามลำดับ ส่วนในปี 62 คาดคงไม่ต่ำกว่าหรือน่าจะเท่าปี 61