คลังออกมาตรการหนุนเอกชนลงทุน ปีนี้เกินแสนล้าน

23 ม.ค. 2563 | 11:29 น.

รมว.คลัง เผย ที่ประชุมขับเคลื่อนเจรจาการค้า-ลงทุน เห็นชอบมาตรการหักค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยนเครื่องจักรได้ 2.5 เท่า-ยกเว้นอากรขาเข้านำเข้าเครื่องจักร 1 ปี หวังดันเม็ดเงินลงทุนเพิ่ม 1 แสนล้านบาท แม้สูญเสียรายได้ภาษี 9,000 ล้านบาท เชื่อคุ้มค่าแล้ว เตรียมเสนอครม.สัปดาห์หน้า

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการด้านการเงินการคลังสนับสนุนการลงทุน ในปี 2563 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย มาตรการหักค่าใช้จ่ายจากการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรได้ 2.5 เท่า สูงที่สุดที่เคยให้มาที่ 2 เท่า และยกเว้นอากรขาเข้าเพื่อการนำเข้าเครื่องจักร โดยมาตรการมีผล 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2563 หลังจากนี้จะต้องมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า

คลังออกมาตรการหนุนเอกชนลงทุน ปีนี้เกินแสนล้าน

“จากมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 9,000 ล้านบาท แต่ได้ผลกลับคืนมาที่คาดว่าจะมีการเร่งลงทุนได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยเทียบจากมาตรการหักลดหย่อน 2 เท่า ที่มีการลงทุน 8 หมื่นล้านบาท เพื่อต้องการสนับสนุนการลงทุนในประเทศ และเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการเป็นหลัก ดังนั้นจึงถือว่าคุ้มค่า” นายอุตตมกล่าว

ขณะเดียวกันยังมีมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนให้ซื้อเครื่องจักร จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐหลายแห่ง วงเงินรวมเป็น 120,000 ล้านบาท เช่น มาตรการสินเชื่อพิเศษเอส่งเสริมผู้ส่งออกของธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ที่เตรียมวงเงินสำหรับเปลี่ยนเครื่องจักร ในการผลิตเพื่อส่งออก อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5,000 ล้านบาท ธนาคารออมสิน สินเชื่อ Transformation Loanวงเงิน 15,000 ล้านบาท สินเชื่อสำหรับลงทุนในพื้นที่ EEC 20,000 ล้านบาท สินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอี ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) 20,000 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย 60,000 ล้านบาท

คลังออกมาตรการหนุนเอกชนลงทุน ปีนี้เกินแสนล้าน

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมจัดประชุม CEO Forum เพื่อจัดทำแผนเร่งรัดงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2563 และเสนอแผนให้คณะกรรมการเห็นชอบ รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดทำแผนโรดโชว์นักลงทุนต่างประเทศ แต่เป็นแผนที่มียุทธศาสตร์และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการดึงดูดให้มาลงทุนชัดเจนขึ้น ส่วนกระทรวงคมนาคม ก็ยืนยันว่าจะเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ในปี 2563