“กปน.”ย้ำประปาเค็มไม่กระทบสุขภาพ

06 ม.ค. 2563 | 10:38 น.

“ผู้ว่าฯ กปน.” ย้ำประปาเค็มไม่กระทบสุขภาพ แต่มีผลต่อความรู้สึก มั่นใจแล้งนี้มีน้ำใช้แน่นอน

 นายปริญญา ยมะสมิต

 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.62 นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวว่า ในปีนี้ภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากน้ำในเขื่อนมีน้อย และต้องบริหารน้ำเก็บไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งด้วย จึงไม่เพียงพอที่จะปล่อยมาผลักดันน้ำเค็มในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงตรงพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงส่งผลให้รสชาติน้ำประปาเปลี่ยนไปเป็นรสกร่อย สามารถรู้สึกถึงความเค็มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นบางวันและบางช่วงเวลา ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่ที่รับน้ำดิบจากแม่น้ำแม่กลองจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่คาดการณ์ว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะยาวนานจนถึงเดือน พ.ค. หรือจนกว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน

 

นายปริญญา กล่าวอีกว่า กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำในการไล่ความเค็ม และให้น้ำมีเพียงพอต่อความต่อต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งในส่วนของ กปน.ได้ใช้น้ำจากทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้น้อยลง และหันมาใช้น้ำจากทางฝั่งแม่น้ำแม่กลองแทน เนื่องจากมีประมาณน้ำมากและเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 62 กปน. ได้ประกาศเตือนเรื่องการบริโภคน้ำดื่มแก่ประชาชน เพราะเป็นช่วงที่มีค่าความเค็มสูง แต่ยืนยันว่าน้ำประปายังสามารถบริโภคได้ ยกเว้นในคนกลุ่มเสี่ยงและสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก

 

น้ำประปาที่ผลิตจากโรงงานผลิตน้ำประปาของการประปานครหลวงทุกแห่งยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ยกเว้นค่าคลอไรด์ที่มีค่าเกินมาตราฐานองค์การอนามัยโลกในบางช่วงเวลา อาจจะส่งผลให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไป ปกติแล้วคนเราควรบริโภคเกลือไม่น้อยกว่าวันละ 1 ช้อนชา หรือคิดเป็น 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งร่างกายของคนเราได้รับโซเดียมจากอาหารทั่วไปมากกว่าในน้ำประปา เพราะฉะนั้นปริมาณความเค็มที่อยู่ในน้ำประปา ตอนนี้ถือว่าน้อยมาก 

 

“ค่าความเค็มที่สังเกตได้แบบเรียลไทม์ เห็นใน twqonline เป็นค่าวัดความเค็มของน้ำดิบ ทาง กปน. ได้ความพยายามแก้ไขการสูบน้ำก่อนเข้าสู่ระบบให้ได้มากที่สุด ช่วงที่ผ่านมามีบางช่วงค่าคลอไรด์สูงสุดถึง 500 มิลลิกรัมต่อลิตร ขอย้ำว่าการบริโภคน้ำประชาในช่วงนี้ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่มีผลต่อความรู้สึก”

 

“กปน.”ย้ำประปาเค็มไม่กระทบสุขภาพ

 

ทั้งนี้ ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 7-15 ม.ค. นายปริญญา กล่าวถึงแนวทางป้องกันว่า ทางกรมชลประทานผลักน้ำเพื่อดันการหนุนของน้ำทะเล ส่วนกปน.ก็มีมาตรการบริหารการสูบน้ำ หากในช่วงเวลาที่น้ำมีค่าความเค็มสูง จะลดหรือหยุดสูบน้ำทันที แต่การบริหารสูบจ่ายน้ำในลักษณะนี้ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อราคาค่าน้ำประปา 

 

ส่วนในแผนระยะสั้น กปน.ได้ใช้น้ำจากฝั่งตะวันตก และแผนในอนาคตจะย้ายจุดสูบน้ำดิบจากบริเวณสำแล ไปตั้งจุดสูบน้ำดิบที่บริเวณบางไทร ขณะที่แผนการเจาะน้ำบาดาลทั้ง 4 จุดยังอยู่ในระหว่างการหารือกับทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แต่คาดว่าใน 1 จุด จะสามารถรองรับปริมาณการใช้น้ำได้ 5,000 ครัวเรือน

 

“กปน.”ย้ำประปาเค็มไม่กระทบสุขภาพ

 

ส่วนแผนในระยะยาว ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 9 ด้วยเงินลงทุน 42,750 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำของโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำ ก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ จากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ เชื่อมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกเพิ่มอีก 1 เส้นทางรองรับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากแล้วเสร็จในปี 67 จะช่วยเพิ่มความเสถียรภาพในและความมั่นคงในการใช้น้ำประปาของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้อย่างแน่นอน 

 

“เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งอย่างเต็มรูปแบบ กปน.ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมชลประทานในการกักน้ำไว้ใช้สำหรับอุปโภคบริโภคจำนวน 900 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ผ่านไปแล้ว 2 เดือน เราใช้น้ำในส่วนนี้ไปเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทั้งหมด จึงมั่นใจว่าจะมีน้ำไว้สำหรับบริการประชาชนในการอุปโภคบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้ง โดยขอย้ำกับประชาชนว่า กปน.มีการแจกน้ำฟรีอย่างไม่จำกัด ในทุกจุดบริการ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08:00-20:00 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ นอกจากนี้ ยังมีแผนบริการน้ำดื่มเคลื่อนที่ในบริเวณพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ของ กทม. เพื่อให้บริการน้ำดื่มแก่ประชาชนอย่างเข้าถึงมากที่สุด โดยจะเริ่มในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป”