BBL ลดพอร์ต GULF รับแผนลงทุน

19 ธ.ค. 2562 | 06:03 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

3 พันธมิตรกัลฟ์BBL-STEC-ROJNA” กำไรในรอบปี 62 จากการถือหุ้นกว่า 9.62 พันล้านบาท เผยแง่กำไรต่อหุ้นของผู้ถือหุ้นเทียบราคาหุ้น STEC รับมากสุด 16.62% จับตาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัง BBL ขายทำกำไร

ในรอบ 1 ปี ราคาหุ้นของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) (GULF) ได้ปรับเพิ่ม โดยราคาปิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 110.43% จากราคาปิด สิ้นปี 2562 ที่ 81.50 บาท หรือเพิ่ม 90 บาท และปรับเพิ่มจากราคาจอง (ไอพีโอ) ที่ 45.00 บาท ตั้งแต่เข้ามาซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ถึง 281.11%

จากการรวบรวมของฐานเศรษฐกิจพบว่าหลักทรัพย์ที่เข้าไปซื้อตั้งแต่ IPO และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ GULF คือ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ปัจจุบันถือ 2.23%, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) สัดส่วน 1.88% และ บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) สัดส่วน 0.9% มีกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้ (เนื่องจากยังไม่ได้ขายทำกำไรออกมา) ในรอบปี 2562 เรียงลำดับมากสุดคือ BBL จำนวน 4,275 บาท รองมา STEC 3,600 ล้านบาท และ ROJNA 1,746 ล้านบาท หรือรวมกันในรอบปีนี้เป็นจำนวน 9,621 ล้านบาท แต่ในแง่กำไรต่อหุ้นของผู้ถือหุ้นเทียบกับราคาหุ้น สูงสุดกลับเป็น STEC 16.62% ROJNA 16.38% และ BBL 1.58% ตามฐานราคาหุ้น วันที่ 13 ธันวาคม 2562 BBL อยู่ที่ 151.50 บาท, STEC 14.20 บาท และ ROJNA ที่ 5.25 บาท

นอกจากนี้หากเทียบจากราคาจอง GULF ที่ปรับขึ้นถึง 281% พบว่า BBL มีกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้มากสุดถึง 6,611 ล้านบาท, STEC 5,060 ล้านบาท และ ROJNA 2,454 ล้านบาท โดยทั้ง STEC และ ROJNA ยังคงถือสัดส่วนหุ้นเท่าเดิมตั้งแต่ไอพีโอ ยกเว้น BBL ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 BBL ลดสัดส่วนจากที่ถือ 64,000,000 หุ้น หรือ 3% เหลือ 47,500,000 หุ้น หรือ 2.23% โดยขายออกมา 16,500,000 หุ้น

 

BBL ลดพอร์ต GULF  รับแผนลงทุน

อย่างไรก็ดีจากการเคลื่อนไหวราคาหุ้น GULF โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ปิดลดลง 10 บาท หรือ -5.83% มาอยู่ระดับ 161.50 บาท ปรับลงค่อนข้างมากในช่วงเวลา 2 เดือน ทำให้มีการวิเคราะห์ไปกันว่า BBL อาจทยอยขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่ทำกำไรออกเพื่อรองรับแผนลงทุน หลังธนาคารได้ประกาศเข้าซื้อหุ้น PT Bank Permata ธนาคารในอินโดนีเซีย 89.12% มูลค่า 8.1 หมื่นล้านบาท และยังมีแผนจะเข้าซื้อหุ้นอีก 10.88% ใช้วงเงินโดยรวมเกือบ 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่แผนลงทุนในครั้งนี้ธนาคารระบุจะไม่ใช้วิธีการเพิ่มทุน ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้น GULF จะมีการเปลี่ยนแปลงต่างจากนี้อย่างไร

ทั้งนี้ BBL เป็นพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนทางการเงินกับ GULF ล่าสุดเป็น 1 ใน 16 สถาบันการเงินสนับสนุนเงินกู้ วงเงินรวม 4.1 หมื่นล้านบาทในโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ปลวกแดง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 2,650 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระยอง มูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ STEC ให้บริการด้านสร้างโรงไฟฟ้า และ ROJNA ให้บริการจำหน่ายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโรงไฟฟ้า

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) (อัพเดตเมื่อ 20 .. 63) อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ จากที่ราคาเป้าหมายให้ไว้ 174 บาท โดยมีอัพไซด์จากโครงการในมือและโครงการ High potential จำนวนมาก อาทิ โครงการ LNG terminal มาบตาพุด คาดเพิ่มราคาเป้าหมายได้อีก 30-40 บาท, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซและ LNG terminal (gas to power) ในเวียดนามขนาด 6,000 MW เพิ่มราคาเป้าหมายได้ราว 40- 60 บาท, โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในโอมานขนาดราว 1,000-2,000 MW และโครงการพลังงานนํ้าในลาวขนาดราว 2,500 MW คาด COD อย่างเร็วปี 2569 ซึ่งจะช่วยหนุนราคาหุ้น GULF เพิ่มอย่างมีนัย

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวงฯ ให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท ชี้เป็นหุ้นTop pick ในกลุ่มโรงไฟฟ้า พร้อมระบุว่าจะมีอัพไซด์อีกราว 100 บาท จากโครงการโรงไฟฟ้า Ca Na LNG เพิ่มราคาเป้าหมายได้อีก 23-29 บาท, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนํ้าในลาว อัพไซด์อีก 24-43 บาท, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบไฮบริด (ก๊าซ,โซลาร์ และลม) ในโอมาน อัพไซด์อีก 4-19 บาท และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ LNG-terminalในมาบตาพุดเฟส 3 อัพไซด์อีก 6 บาท

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,532 วันที่ 19-21 ธันวาคม 2562

BBL ลดพอร์ต GULF  รับแผนลงทุน