ขาดแคลนแรงงานของเช็ก : โอกาสของคนไทย

16 พ.ย. 2562 | 23:00 น.

 

 

บทความพิเศษโดย:เอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก

สถานการณ์อัตราการว่างงานของเช็กที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับต่ำที่สุดในอียูและอัตราการเพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติที่เข้าไปพำนักอยู่ในเช็กที่สูงขึ้นในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่าจับตาและวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของสถานการณ์ตลาดแรงงานในเช็กและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งการเป็นโอกาสและทางเลือกสำหรับแรงงานไทย

 

สาธารณรัฐเช็กมีพื้นที่ทั้งหมด 77,240 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 10.5 - 10.6 ล้านคน จำนวนประชากรดังกล่าวคิดเป็น 0.14% ของจำนวนประชากรโลก มีความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่เท่ากับ 138 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 73.5% อาศัยอยู่ในเขตเมือง และมีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 41.8 ปีกรุงปรากนับเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศโดยมีจำนวนประมาณ 1.3 ล้านคน

 

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 อัตราการว่างงานของเช็กอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5% มาอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 2018 อยู่ที่ 2.2% และปัจจุบันอยู่ที่ 1.9% (สถานะ มิ.ย. 2562) ซึ่งนับว่าอยู่ในอัตราที่ต่ำที่สุดในประเทศสมาชิกอียูตามมาด้วยเยอรมนี (3.1%) ฮังการี (3.4%) และโปแลนด์ (3.8%) ในขณะที่อัตราการว่างงานเฉลี่ยของอียูอยู่ที่ 6.6% เช็กเคยมีอัตราการว่างงานสูงที่สุดในช่วงปี ค.ศ. 1999 - 2005 โดยอยู่ที่ 8-9% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดของประเทศ


ขาดแคลนแรงงานของเช็ก : โอกาสของคนไทย

ตามรายงานของสถาบันการวางแผนเพื่อการพัฒนาแห่งปราก (Prague Institute of Planning and Development - IPR) พบว่าปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในกรุงปรากประมาณ 185,715 คน ในจำนวนดังกล่าวชาวยูเครนมีจำนวนมากที่สุดประมาณ 51,000 คน (ประมาณ 70% ได้รับ PR) ตามมาด้วยสโลวะเกีย (31,500 คน ได้รับสถานะผู้มีถิ่นพำนักถาวร 35%) รัสเซีย (24,000 คน ได้รับสถานะผู้มีถิ่นพำนักถาวร 53%) ซึ่งบุคคลทั้ง 3 สัญชาติรวมกันเท่ากับประมาณ 50% ของจำนวนชาวต่างชาติทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในกรุงปราก นอกจากกลุ่มชาวต่างชาติข้างต้นแล้ว ชาวเวียดนามเป็นชาวต่างชาติที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 4 (13,000 คน ได้รับสถานะผู้มีถิ่นพำนักถาวร 86%) หากมองในแง่อายุเฉลี่ยของชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอยู่ในกรุงปราก สามารถแบ่งได้เป็น (1) ระหว่าง 25 – 39 ปี มีจำนวนประมาณ 70,000 คน (29,000 คน มาจากประเทศสมาชิกอียู และอีก 42,000 คน มาจากประเทศนอกอียู) และ (2) ระหว่าง 40-54 ปี มีจำนวนประมาณ 52,000 คน (มากกว่า 33,000 คนมาจากประเทศนอกอียู)

 

จำนวนชาวต่างชาติที่เข้าไปพำนักอยู่ในกรุงปรากและสาธารณรัฐเช็กที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานของเช็กโดยเฉพาะแรงงานมีฝีมือและความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อรักษาระดับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและป้องกันการเกิดภาวะชะงักงันจากการขาดแคลนแรงงานและกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการผลิตของประเทศดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และล่าสุด รัฐบาลได้ออกมาตรการเพิ่มโควต้าให้กับแรงงานชั่วคราวจากยูเครนจากจำนวน 19,600 คน เป็น 40,000 คน โดยลดระยะเวลาและขั้นตอนการคัดเลือกแรงงานให้สั้นลง และยังเพิ่มโควต้าแรงงานจากเซอร์เบียและ

มอนเตเนโกร เป็นประเทศละ 2,000 คน ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย และมอลโดวาประเทศละ 1,000 คน อินเดีย 600 คน และคาซักสถาน 300 คน อย่างไรก็ดี จากการเปิดเผยของกระทรวงมหาดไทยเช็ก แรงงานจากยูเครนเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากที่สุดเนื่องจากภาษาและวัฒนธรรมของชาวยูเครนมีความใกล้เคียงกับเช็กจึงทำให้ไม่มีปัญหาในการปรับตัว แม้รัฐบาลเช็กจะเพิ่มโควต้าให้กับแรงงานที่มีทักษะจากยูเครน จากสถิติการจับกุมแรงงานต่างชาติที่ลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมายจำนวน 4,992 คนแรงงานยูเครนยังคงเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ถูกจับกุม


ขาดแคลนแรงงานของเช็ก : โอกาสของคนไทย

นอกจากแรงงานในกลุ่มที่ใช้ภาษาเช็กแล้ว แรงงานที่สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษ รัสเซีย เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส เวียดนาม เกาหลีก็ยังเป็นที่ต้องการของเช็กเช่นกัน โดยภาคอุตสาหกรรมที่เช็กยังคงขาดแคลนแรงงานและเปิดรับแรงงานจากต่างชาติ ได้แก่ (1) พนักงานบัญชีและการเงิน (2) พนักงานลูกค้าสัมพันธ์

(3) พนักงานบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (4) พนักงานขาย (5) พนักงานสนับสนุนภายในสำนักงาน เช่น ล่าม เลขาและผู้ช่วยผู้บริหาร และพนักงานด้านเอกสาร (6) นักทรัพยากรบุคคล (ด้านการคัดเลือกบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ ด้านระบบการจ่ายเงินเดือน) (7) บุคลากรด้านการศึกษา โดยเฉพาะครูสอนภาษาอังกฤษ

(8) มัคคุเทศก์ (ทั้งแบบ full-time และ part-time) และ (9) พนักงานในภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาเช็กเท่านั้นจึงสะท้อนให้เห็นถึงความเปิดกว้างและต้องการเปิดรับชาวต่างชาติให้เข้าไปทำงานในเช็กเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

 

นอกจากจำนวนแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเช็กจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว จำนวนนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกันโดยมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 16% ในช่วง 10 ปี

ที่ผ่านมา ในปี ค.ศ. 2018 มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด 44,800 คน ในขณะที่ปี ค.ศ. 2008 มีจำนวนเท่ากับ 33,100 คน ในภาพรวมจำนวนนักศึกษาระดับอุดมศึกษาของเช็กได้ลดลงโดยในปี ค.ศ. 2018 มีจำนวน นักศึกษาทั้งหมด 290,100 คน ในขณะที่ปี ค.ศ. 2008 กลับมีจำนวนนักศึกษาสูงถึง 368,100 คน ซึ่งนักศึกษาจากสโลวักมีสัดส่วนสูงที่สุด คือ 22,000 คน ตามมาด้วยรัสเซีย (6,000 คน) และยูเครน (3,000 คน)

ขาดแคลนแรงงานของเช็ก : โอกาสของคนไทย

สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานของเช็กเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลเช็กได้หันมาให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมและรับมือกับเรื่องดังกล่าวทั้งในด้านการเตรียมการเพื่อเพิ่มโควต้าการนำเข้าแรงงานต่างชาติ การดำเนินการด้าน R&D เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นสูงรวมทั้งนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแทนกำลังคน นอกจากนั้น รัฐบาลยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขยายการลงทุนออกไปยังนอกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าในยุโรปและมีตลาดแรงงานมีฝีมือที่มีศักยภาพ

 

การขาดแคลนแรงงานของเช็กในปัจจุบันนับว่าเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการเป็นทางเลือกในภูมิภาคเอเชียต่อการดึงดูดให้เช็กย้ายฐานการผลิตและ/หรือไปตั้งศูนย์การกระจายสินค้าในประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งยังเป็นโอกาสสำหรับแรงงานไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานมีฝีมือ แรงงานภาคบริการ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นสูงและนวัตกรรมที่จะเข้าไปทำงานในเช็ก ซึ่งในอนาคตแรงงานเหล่านี้ สามารถสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ของอียูและสามารถขยับขยายไปทำงานในประเทศสมาชิกอียูอื่น ๆ ได้อีกต่อไป ในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนและเศรษฐกิจไทยก็อยู่ในช่วงของการชะลอตัว เช็กจึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกและโอกาสสำหรับแรงงานไทยอีกประเทศหนึ่งในยุโรป