ชงผู้นำออกแถลงการณ์-ป้องภัยเทรดวอร์ ไทยดันปิดจ็อบอาร์เซ็ป

22 ต.ค. 2562 | 03:10 น.

 

 

ไทยยึดเวทีอาเซียนซัมมิท ประกาศความสำเร็จสรุปผลการเจรจาอาร์เซ็ป ก่อนส่งไม้ต่อเวียดนามประธานอาเซียนปี 63 ดันลงนามมีผลบังคับใช้ ชี้จะเป็นเอฟทีเอที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก หวังช่วยป้องภัยจากเทรดวอร์

วันที่ 30 ตุลาคม-4 พฤศจิกายนนี้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนปี 2562 จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิทครั้งที่ 35 ครั้งนี้มีความพิเศษคือนอกจากจะมีเวทีการประชุมที่เกี่ยวเนื่องทั้งระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส(ระดับอธิบดี) ระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และเวทีผู้นำอาเซียน 10 ประเทศแล้ว ยังมีเวทีผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP /อาร์เซ็ป)ที่มีสมาชิก 16 ประเทศ (อาเซียน 10 ประเทศบวก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) รวมถึงเวทีอาเซียนบวก 8 (อาร์เซ็ป 16 ประเทศ บวก สหรัฐฯและรัสเซีย)ด้วย ซึ่งในครั้งนี้จะมีไฮไลต์เกิดขึ้นมากมาย

 

ประกาศความสำเร็จอาร์เซ็ป

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าไฮไลต์หนึ่งที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้รัฐมนตรีเศรษฐกิจจะนำเสนอผู้นำอาร์เซ็ปออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จของการเจรจาอาร์เซ็ปที่เริ่มต้นเจรจามาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีทั้งหมด 20 บท และ 4 ภาคผนวก ล่าสุดสามารถสรุปได้แล้ว 14 บท 4 ภาคผนวก เหลือที่ต้องเจรจาต่ออีก 6 บท ขณะที่การเจรจาเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน สามารถสรุปผลได้แล้ว 80% ใกล้สรุป 16% ที่เหลือ 3.6% เป็นประเด็นที่ต้องเร่งหารือ

ในช่วงเวลาที่เหลือก่อนการประชุมอาเซียนซัมมิท คณะเจรจาของอาร์เซ็ปจะได้เร่งประชุมเพื่อหาข้อสรุปในส่วนที่เหลือ คาดจะได้ข้อสรุปทั้งหมด นำเสนอต่อรัฐมนตรีอาร์เซ็ปเพื่อกลั่นกรอง ก่อนนำเสนอผู้นำประกาศสรุปผลการเจรจา และออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จในช่วงการประชุมผู้นำอาร์เซ็ปในครั้งนี้

“การปิดรอบหรือสรุปผลการเจรจาอาร์เซ็ปได้ภายในปีนี้ตามเป้าหมายที่ผู้นำตั้งไว้ เป็น 1 ใน 13 ประเด็นที่ไทยผลักดันให้อาเซียนร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุผลสำเร็จในปี 2562 ซึ่งหากอาร์เซ็ปสามารถบรรลุข้อตกลง และสมมติว่าสามารถลงนามกันได้ประมาณเดือนมิถุนายน-กรฎาคมปี 2563 ในช่วงที่เวียดนามจะรับไม้ต่อเป็นประธานอาเซียนต่อจากไทยทั้ง 16 ประเทศก็จะมีเวลาอีกประมาณ 1 ปีเพื่อนำเรื่องเข้าสู่สภาของแต่ละประเทศพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป”

ชงผู้นำออกแถลงการณ์-ป้องภัยเทรดวอร์  ไทยดันปิดจ็อบอาร์เซ็ป

 

สำหรับอาร์เซ็ปหรือความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)อาเซียน+ 6 จะเป็นเอฟทีเอที่ครอบคลุมตลาดที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก มีประชากรรวมกัน 3,500 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีขนาดจีดีพีรวมกันสัดส่วน 32.3% ของจีดีพีโลก และมีมูลค่าการค้ารวมสัดส่วนเกือบ 30% ของมูลค่าการค้าโลก(ดูกราฟิกประกอบ) ซึ่งการค้า การลงทุนกันเองภายในกลุ่มจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและลดผลกระทบจากสงครามการค้า การกีดกันทางการค้า รวมถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวได้

ขณะที่ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (เฉพาะ 10 ประเทศ)ในครั้งนี้ ในส่วนเสาหลักด้านเศรษฐกิจผู้นำจะมีการติดตามความคืบหน้าในประเด็นต่างๆ ที่ไทยผลักดันให้อาเซียนร่วมกันดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จภายในปีนี้ ทั้งการเตรียมความพร้อมของอาเซียนเพื่อรองรับอนาคต ซึ่งจะมุ่งไปที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 (4IR) การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ รวมทั้งสิ้น 13 ประเด็น ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 7 ประเด็น และจะมีการเสนอเพิ่มเติมในการประชุมอีก 3 ประเด็น และคาดว่าทั้ง 13 ประเด็นจะสำเร็จภายในปีนี้

 

ดันอาเซียน 4.0

ด้านนายสุริยา จินดาวงษ์ อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเสาหลักด้านการเมืองและความมั่นคงของอาเซียนว่า ในครั้งนี้จะมีการหารือเกี่ยวกับความยั่งยืน การสร้างความเป็นหุ้นส่วน การเชื่อมโยงทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค รวมถึงหารือเกี่ยวกับอาเซียน 4.0 การกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์จากการพูดคุยกับประเทศนอกภูมิภาค ที่จะเชื่อมโยงกับแนวคิด “อินโด-แปซิฟิก” เพื่อให้เกิดการสนับสนุนในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนการสร้างความมีเสถียรภาพความมั่นคง ในภูมิภาคเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและการหาทางออกร่วมกัน ตลอดจนการบริหารจัดการชายแดน เพื่อสร้างระบบกลั่นกรองในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ

 

เปิดศูนย์อาเซียนเพื่อสูงวัย

ขณะที่นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงเสาด้านสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียน ในการประชุมครั้งนี้จะมีการเปิด “ศูนย์อาเซียน” เพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม ศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม นอกจากนี้จะมีการเสนอเอกสารผลลัพธ์ต่อที่ประชุม จำนวน 9 ฉบับ แบ่งเป็นเอกสารเพื่อรับรองจำนวน 6 ฉบับ และเอกสารเพื่อทราบจำนวน 3 ฉบับ

ในส่วนของขวัญและของที่ระลึก ประเทศไทยได้จัดเตรียมโถศิลาดลคล้องมาลัย กระเป๋าย่านลิเภา เนกไท ผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ ไว้มอบให้ผู้นำและภริยา ตลอดจนตัวแทน ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า นอกจากภารกิจของผู้นำแล้ว ยังมีภารกิจของคู่สมรสในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน โดยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี จะนำคู่สมรสของผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนร่วมสัมมนาเรื่องการบริหารจัดการขยะ พร้อมนำเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ และวังบางขุนพรหม 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ชงผู้นำออกแถลงการณ์-ป้องภัยเทรดวอร์  ไทยดันปิดจ็อบอาร์เซ็ป