ฝ่ายค้านจ่อฟ้อง “กอ.รมน.” แจ้งความเท็จ

04 ต.ค. 2562 | 10:11 น.


“7พรรคฝ่ายค้าน” เตรียมแจ้งความกับกอ.รมน. แจ้งความเท็จ  6 ต.ค.นี้ ที่สภ.ปัตตานี ชี้อาจโยงถึงตัวนายกฯ ยันเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อ  ยันไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

วันที่ 4 ต.ค. 252 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคในฐานะ ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายปิยบุตร แสงกนกกุล  เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยและอดีตสมช. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคพท. นายสมพงษ์ สระกวี ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย ร่วมแถลงภายหลังการประชุมแกนนำ 7 พรรค กรณีกอ.รมน. แจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพรรคที่ขึ้นเสวนาบนเวทีรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญที่จ.ปัตตานี

 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษโดยกอ.รมน. ซึ่งนายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ดังนั้นเท่ากับว่านายกฯ เป็นผู้สั่งการให้มีการดำเนินคดีหรือไม่ ซึ่งการแสดงความเห็นตามสิทธิเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การใช้กฎหมายและยังเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลด้วย วันนี้ที่เรารณรงค์กับก็เพื่อต้องการหลอมรวมสติปัญญาของประชาชน เพราะความมั่นคงของประชาชน คือความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม การที่กอ.รมน.มาฟ้องร้องเช่นนี้ ตัวผู้แจ้งความ และนายกฯ กำลังจะบิดเบือนเจตนารมย์ของกฎหมาย ในฐานะผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค และนักวิชาการ เราจำเป็นต้องฟังความเห็นจากประชาชนทุกคน เป็นการกระทำที่ต้องการข่มขู่ทางวิชาการ ข่มขู่ประชาชน ไม่ให้มีความีความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งแบนี้เป็นอันตรายต่อประเทศ 

ปิยบุตร แสงกนกกุล

ดังนั้น 1.ผู้ถูกกล่าวหาจะต่อสู้ทางกฎหมายหากมีการเรียกไปสอบสวน และ 2.เรามองว่าการแจ้งความเป็นการแจ้งความเท็จในหลายประเด็น เพื่อข่มขู่ ไม่ให้บ้านเมืองเกิดการพัฒนา และข่มขู่ไม่ให้มีการแสดงความเห็น ซึ่งเราจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แจ้งความเท็จ ทั้งคนแจ้งความและผู้มีอำนาจ และจะดูต่อไปว่าจะโยงไปถึงตัวนายกฯ ได้ด้วยหรือไม่ 

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์

ขณะที่นายสงคราม กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เรายืนยันว่า เราแสดงความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้มีอำนาจก็พยายามดึงเราให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหมวด 1 และ หมวด 2 ซึ่งเรายืนยันมาตลอดว่า เราจะไม่แตะต้อง นอกจากนี้ การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องผ่าน ส.ส.ร. ซึ่งไม่มีใครสามารถไปชี้จุดว่าจะให้แก้แบบไหน อย่างไรได้ และเราไม่เคยบอกเลยว่าจะต้องแก้จุดไหน เราให้เป็นสิทธิของประชาชนว่าต้องการที่จะแก้แบบไหน สำหรับใครบางคนที่ยังไม่เข้าใจ พยายามดึงเราเข้าไปในวังวนของความขัดแย้ง ก็ช่วยพิจารณาด้วย

 

ด้านนายนิคม กล่าวว่า อย่าคิดว่าขณะนี้ยังอยู่ในยุค คสช. การแจ้งความประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล เราอยากให้หยุด เพราะตอนนี้เราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยแล้ว แม้จะไม่เต็มใบก็ตาม ทั้งนี้ ส.ส. จาก 7 พรรคฝ่ายค้าน เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน การแจ้งความกับพวกเรา เท่ากับแจ้งความกับประชาชน อยากให้ท่านไปแจ้งความอย่างอื่นมากกว่า แน่จริงก็ไปแจ้งความพล.อ.ประยุทธ์ ที่ถวายสัตย์ฯไม่ครบด้วยสิ อย่างไรก็ตาม เราจะเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะเราถือว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.นี้ เราจะเดินทางไปแจ้งความกลับ โดยกำลังพิจารณาว่าจะไปที่กองบังคับการปราบปราม หรือที่สถานทีสภ.ปัตตานี

 

ด้านนายอนุสรณ์ กล่าวว่า เรา 7 พรรคฝ่ายค้านยืนยันเจตนารมย์ที่จะรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยืนยันรัฐธรรมนูญปี 60 แก้ไขได้ และอยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่จะไม่มีการแตะต้องหมวด 1 และ หมวด 2 ดังนั้น จะมาใช้ข้อกฎหมายปิดปากพวกเราไม่ได้