รายงาน โดยอุมาภรณ์ ขวัญเมือง
แม้สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งท้ายปีและยาวต่อเนื่องถึงช่วงปีหน้าแนวโน้มอยู่ในภาวะทรงตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมพบหลายค่าย พับแผนชะลอโครงการ ส่งผลมีหน่วยใหม่ทั้งตลาดปีนี้หายไปมากถึง 25% ที่ 4.5 หมื่นหน่วยจาก 6.6 หมื่นหน่วยเมื่อปี 2561 ประเมินว่าเป็นการย่อตัวรับกำลังซื้อที่เหลือในตลาด อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของ รถไฟฟ้าสายใหม่ ถือเป็นปัจจัยบวก พยุงตลาด ส่งผลให้เกิดทำเลใหม่ๆ ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดความต้องการด้านที่อยู่อาศัยตามมา โดยเฉพาะโอกาสของตลาดคอนโดฯหลัก ราคา 2-5 ล้านบาท ย่านฝั่งธนบุรี จากการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-หลักสอง และจะวิ่งครบลูปในอนาคต
ต่อขยาย“นํ้าเงิน”เชื่อมเมือง
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ส่วนต่อขยายสายสีนํ้าเงินช่วยให้ชาวฝั่งธนบุรี เดินทาง เข้าใจกลางเมืองได้สะดวกเปิด โอกาสธุรกิจอสังหาฯ ขยายตัวไปยังทำเลใหม่ๆ สำหรับทำเลที่น่าสนใจมีผู้ประกอบการมองหาที่ดินพัฒนาโครงการจำนวนมาก เช่น บริเวณถนนอิสรภาพ (สถานีอิสรภาพ) เป็นทำเลใหม่ที่มีโอกาสพัฒนาสูง เพราะเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นๆ ได้โดยรถไฟฟ้าขยายไปก่อนหน้า เช่น โซนปิ่นเกล้า วงเวียนใหญ่ หรือเจริญนคร จากเดิมที่ถูกจำกัด คาดในอนาคตจะเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมพัฒนาขึ้นจำนวนมาก จากซัพพลายที่แทบไม่มี โดยเฉพาะระดับราคา 2-5 ล้านบาท (7.5 หมื่น-1.1 แสนบาท/ตร.ม.) เป็นตลาดหลักของคนไทย คนซื้อส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และพบว่าตลาดดังกล่าวยังขายได้เรื่อยๆ แต่เมื่อเทียบในแง่การโอนกรรมสิทธิ์แล้ว เป็นกลุ่มที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ เมื่อเทียบกับระดับราคาอื่นๆ เพราะลูกค้ามักเป็นกลุ่มที่ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วไม่ตํ่ากว่า 5 ปี มีฐานเงินเดือนที่มั่นคงและบริหารจัดการการเงินได้ดีกว่ากลุ่มที่ซื้อในระดับราคาตํ่ากว่า 2 ล้านบาท หรือกลุ่มราคาสูง ที่นักลงทุนเริ่มโอนน้อยลง ขณะเดียวกัน บางส่วนเป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือ 3 ลักษณะจ่ายเงินสดด้วยซํ้า
“รถไฟฟ้าสถานีใหม่ๆ ทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น 10-20% ในแง่ความสนใจของคนซื้อ ซึ่งตลาด 2-5 ล้านบาท เป็นตลาดใหญ่ น่าจะมีโอกาสโตต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับ ดีเวลอปเปอร์สามารถหาต้นทุนที่ดินที่ตํ่า สร้างในขนาดที่ลูกค้าต้องการได้หรือไม่ โดยเฉพาะ ใกล้สถานี”
“อิสรภาพ”ทำเลทองใหม่
สอดคล้องกับนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังเปิดคอนโดฯใหม่“ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ” บริษัทยังให้ความสนใจทำเลฝั่งธนบุรีต่อเนื่อง พัฒนาโครงการมาแล้วไม่ตํ่ากว่า 10 โครงการ โดยอยู่ระหว่างการขาย 5 โครงการ ซึ่งยอมรับว่า ก่อนหน้าทำเลนี้ไม่คึกคักมากนัก เพราะติดข้อจำกัดการเดินทางจากสะพานข้ามแม่นํ้าเชื่อม 2 ฝั่งที่มีน้อย แต่การเกิดขึ้นของสถานีใหม่ๆ ตามเส้นทางส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน หัวลำโพง-หลักสอง และอีกไม่นานจะครบลูปวงกลม เตาปูน-ท่าพระ ยิ่งทำให้ทำเลมีความน่าสนใจขึ้น โดยเฉพาะตลาดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป เพราะดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในอัตราตํ่ากับพนักงานเงินเดือนที่ฐานคงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยังสามารถกู้ได้อยู่ คาดอนาคตย่านฝั่งธนบุรีตั้งแต่อิสรภาพเรื่อยมา ท่าพระ ได้รับความนิยมจากคนซื้อและผู้พัฒนาฯสูง ทั้งรูปแบบโครงการโลว์ไรส์และไฮไรส์ เพราะซัพพลายในตลาดมีน้อย
สะท้อนว่า ส่วนต่อขยายสายสีนํ้าเงิน เปิดโอกาสให้คนมองทำเลใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อคอนโดฯแพง 2 แสนบาทต่อตร.ม. เหมือนศาลาแดง เพราะหากนับจากฝั่งธนไป 7-8 สถานี ก็เข้าเมืองได้เรียกว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะเปลี่ยน กรุงเทพฯหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อผังเมืองกรุงเทพมหานครใหม่เอื้อต่อการพัฒนา
หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,509 วันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2562