ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีคลังน้ำมันสองแห่งของบ.อารามโคในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของซาอุฯหายไปครึ่งหนึ่งจากที่ผลิตได้ในปัจจุบัน
โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดล่วงหน้าของลอนดอน พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์กระโดดขึ้นไปถึง 19.5% อยู่ที่ 71.95 เหรียญฯ/บาเรลเมื่อตอนเปิดตลาด และปิดตลาดที่ 69.02 เหรียญฯ/บาเรล เพิ่มขึ้น 14.6%
เวสต์เท็กซัสที่สหรัฐฯ ทำสถิติเช่นเดียวกัน เปิดตลาดราคาพุ่งขึ้นไปถึง 15.5% อยู่ที่ 63.34 เหรียญฯ/บาเรล ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2008 และปิดตลาดที่ 62.9 เหรียญฯ/บาเรล หรือ 14.8%
ขณะที่ราคาน้ำมันขายปลีกล่วงหน้าในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 12.8 % อยู่ที่ 0.20 เหรียญฯ/แกลลอน หรือ 1.75 เหรียญฯ/แกลลอน
การโจมตีที่เกิดขึ้นในคลังน้ำมันสองแห่งของ บ.อารามโคในซาอุดิอาระเบีย คิดเป็นกำลังการผลิตที่มากถึง 5.7ล้านบาเรล/วัน หรือ 50%ของกำลังการผลิตทั้งหมดของซาอุฯ มีรายงานว่าบริษัทสามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้แล้ว 1ใน3 หรือประมาณ 2 ล้านบาเรลในวันจันทร์ที่ผ่านมา (17ก.ย.) อย่างไรก็ตามสื่ออย่าง บลูมเบิร์ก รายงานว่าอารามโคจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเข้าไปซ่อมแซมคลังน้ำมันหลักใน อับคิค (Abqaiq) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองคลังน้ำมันที่ถูกโจมตีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา