ต่างชาติเมินหุ้นไทย โฟลว์ไหลเข้าตํ่าสุดในภูมิภาค  

12 ก.ย. 2562 | 00:00 น.

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันแค่ 3,832.78 ล้านบาท ตลท.เผยทิศทางโฟลว์ยังผันผวนตามประเด็นต่างประเทศเป็นหลัก แนะลงทุนระยะยาว เผยผลตอบแทน 13 ปี พุ่ง 143% ติด 1 ใน 5 ตลาดโลก  

รายงานข่าวจากตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย วันที่ 9 กันยายน 2562 นักลงทุนต่างชาติอยู่ในสถานะขายสุทธิ 3,793.24 ล้านบาท ส่วน MTD (วันที่ 2-9 กันยายน 2562) ขายสุทธิรวม 15,827.96 ล้านบาท แต่ YTD (วันที่ 1 มกราคม-9 กันยายน 2562) อยู่ในสถานะซื้อสุทธิที่ 482,444.79 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี MTD ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 2,563.25 ล้านบาท ขณะที่ YTD ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิเพียง 3,832.78 ล้านบาท ซึ่งตํ่าสุดเมื่อเปรียบเทียบกับ 6 ประเทศที่เหลือ (ตามตารางประกอบ)

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2562 มองกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังผันผวน โดยมาจากปัจจัยต่างประเทศกดดันเป็นหลัก เช่น สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะปรับลดลงต่อหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยบวกมาจากในประเทศ คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทต่างๆ ด้วย

ต่างชาติเมินหุ้นไทย โฟลว์ไหลเข้าตํ่าสุดในภูมิภาค  

 

อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 2562 นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 54,263 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นในภูมิภาค ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน การประท้วงในฮ่องกง และความเสี่ยงที่อาจเกิด no-deal Brexit ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีการส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ตลอดจนกลุ่มธุรกิจนํ้ามัน ผู้ลงทุนควรจับตามองความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ ผลจากการจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส 2019 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้ตลท.ได้จัดโรดโชว์ที่มีความเข้มข้นขึ้น ด้วยการเปิดให้บจ.ขนาดเล็กได้มีโอกาสโชว์ศักยภาพ โดยเฉพาะบจ.ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เนื่องจากนักลงทุนอยากศึกษาบริษัทขนาดเล็กบ้าง รวมถึงการเปิดนโยบายของรัฐบาลครั้งแรก หลังจากการเลือกตั้ง ทำให้เป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้นายศรพล แนะนำนักลงทุนให้ลงทุนระยะยาวมากขึ้น หลังจากตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ เช่น สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน การประท้วงในฮ่องกง การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (เบร็กซิท) ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนควรลงทุนระยะยาวขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีในวัยเกษียณ จากทีมวิจัยของตลท.ได้มีการทำข้อมูล พบว่า ดัชนีหุ้นไทยระยะยาว 13 ปี ตั้งแต่ปี 2549 ถึง 30 สิงหาคม 2562 ให้ผลตอบแทนสูงสุดที่ 143% ติดอันดับ 4 ของตลาดโลก ขณะที่ หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน เช่น ดัชนี SET Well-Being Index, ดัชนี SETTHSI, กลุ่มอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์, หุ้นที่จ่ายปันผลสูง และหุ้นที่มีรายได้มาจากประเทศกลุ่ม CLMV

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,504 วันที่ 12-14 กันยายน 2562 

                       ต่างชาติเมินหุ้นไทย โฟลว์ไหลเข้าตํ่าสุดในภูมิภาค