พลังงานหวั่นค่าโง่ ขอเบรกฟ้องรื้อแท่น

06 ก.ย. 2562 | 06:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

พลังงานก้นร้อน ร่อนหนังสือถึงยักษ์พลังงาน 3 ราย ขอให้ระงับยื่นกระบวนการฟ้องอนุญาโต ตุลาการ ค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียม 1 แสนล้านบาท  พร้อมเปิดเจรจาให้บรรลุข้อพิพาท ผู้รับสัมปทานไม่เชื่อความจริงใจ ตั้งทีมยื่นฟ้องแล้ว

    หลังจากที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมาเปิดเผยถึงการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาข้อพิพาทค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมจำนวนกว่า 300 แท่นกลางอ่าวไทย มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เพื่อมาตั้งรับผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมต่างชาติจำนวน 3 รายประกอบด้วยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และมิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น ผู้ดำเนินงานในแหล่งก๊าซเอราวัณ และบริษัท โททาล อี แอนด์ พี ไทยแลนด์ฯ ผู้ถือหุ้นในแหล่งก๊าซบงกช จะยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีที่ต้องวางหลักประกันค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียม เต็มจำนวนคิดเป็นมูลค่าราว 1.06 แสนล้านบาท ทั้งที่แท่นผลิตปิโตรเลียมกว่าครึ่งหนึ่งหรือกว่า 150 แท่น รัฐจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อหลังหมดสัญญาสัมปทานปี 2565-2566

ล่าสุดทางกระทรวงพลังงาน ได้มีหนังสือถึงผู้ประกอบการสัมปทานทั้ง 3 ราย มีนายกุลิศ ลงนาม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 เรื่องขอหารือกรณีการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ตามที่ก่อนหน้านี้ผู้รับสัมปทานทั้ง 3 ราย ได้ส่งหนังสือถึงกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 ว่าไม่เห็นด้วยกับการวางหลักประกันค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมเต็มจำนวน โดยขอให้กระทรวงพลังงานเปิดการเจรจา หากไม่ได้ข้อยุติ ก็จะส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโต ตุลาการ

ทั้งนี้ ในหนังสือที่กระทรวงพลังงานส่งไป ขอให้ผู้รับสัมปทานทั้ง 3 ราย ระงับการดำเนินการสู่กระบวนการฟ้องอนุญาโตตุลาการไว้ก่อน จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรม โดยอ้างถึงทั้ง 2 ฝ่าย ควรมีโอกาสที่จะต้องลงพูดคุยกันอย่างฉันมิตร ก่อนที่จะไปสู่กระบวนการตามสัญญาสัมปทาน จึงขอร่วมหารือเพื่อทางออกร่วมกันต่อเนื่องจากที่ได้ประสานไว้กับกระทรวงพลังงาน เพื่อให้การหารือเป็นไปอย่างราบรื่น และกระทรวงฯยินดีรับฟังและพิจารณาข้อเสนอที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

แหล่งข่าวจากวงการขุดเจาะและสำรวจผลิตปิโตรเลียม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา ทางกระทรวงพลังงาน ได้ส่งหนังสือถึงผู้รับสัมปทานต่างชาติ 3 รายเพื่อขอให้ระงับกระบวนการยื่นฟ้องอนุญาโต ตุลาการจนกว่าการเจรจาจะได้ข้อบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งผู้รับสัมปทานเห็นว่า หนังสือที่ส่งมาดังกล่าว เป็นการสั่งให้ดำเนินการหรือเป็นการบังคับให้ดำเนินงานตาม โดยที่ไม่มีการนัดวันหารือหรือการเจรจา เป็นการแสดงให้เห็นความไม่จริงใจในการแก้ปัญหาที่เป็นข้อพิพาท เนื่องจากระยะเวลาที่เหลือที่กำหนดให้วางหลักประกันเหลือระยะเวลาไม่ถึง 40 วัน หรือครบกำหนดประมาณวันที่ 10 ตุลาคม 2562

ดังนั้น หากกระทรวงพลังงานต้องการให้ระงับกระบวน การยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการ จะต้องนัดวันเจรจาที่แน่นอน และต้องให้ผู้มีอำนาจร่วมเจรจา เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ทันที ไม่ใช่เป็นระดับเจ้าหน้าที่ หรือข้าราชการที่ต้องนำเรื่องไปเสนอผู้มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งจะเสียเวลาไม่ทันกับเงื่อนระยะเวลาที่กำหนด หากมีการเจรจาเกิดขึ้นและสามารถบรรลุได้คราวเดียว การยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการก็จะไม่เกิดขึ้น

“ที่ผ่านมาทางกระทรวงพลังงานยังไม่มีการนัดวันหารือ นับตั้งแต่มีการส่งหนังสือให้ผู้รับสัมปทานมาวางหลักประกันค่ารื้อถอนไปเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา และหลังจากนี้ไปก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการนัดวันเจรจาได้เมื่อไร ทางผู้รับสัมปทานยืนยันแล้วว่าจะดำเนินการยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการก่อนจะถึงเส้นตายประมาณ 7-10 วัน เพื่อรักษาสิทธิ เพราะขณะนี้แต่ละรายได้มีการตั้งทีมจากบริษัททนาย เพื่อมายื่นฟ้องแล้ว เพราะเห็นว่าทางกระทรวงพลังงานไม่มีความพยายามที่จะเจรจาให้ได้ข้อยุติ”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยืดเยื้อที่กระทรวงพลังงานยังไม่สามารถเปิดเจรจาได้ น่าจะมาจากจำนวนแท่นผลิตปิโตรเลียมที่ต้องส่งมอบรัฐกว่า 300 แท่นนี้ ภาครัฐยังไม่มีการพิจารณาหรือตัดสินใจได้ว่าจะเก็บแท่นนำไปให้กลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตทสผ.ใช้ประโยชน์ต่อหลังสิ้นสุดสัมปทานในแหล่งเอราวัณและบงกชช่วงปี 2565-2655 ว่ามีจำนวนกี่แท่น เพราะเป็นเรื่องที่คาบเกี่ยวกับค่าการวางหลักประกันและจำนวนแท่นที่ต้องรื้อถอนออกไป

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3502 วันที่ 5-7 กันยายน 2562

พลังงานหวั่นค่าโง่  ขอเบรกฟ้องรื้อแท่น