ครม.เตรียมรับพระราชดำรัสกรณีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์พรุ่งนี้

26 ส.ค. 2562 | 10:33 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ครม.เตรียมรับพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ในหลวง เวลา 09.00 น. อังคารนี้ ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562

วันนี้( 26 ส.ค.62)  ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ได้มีหนังสือเวียนไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.)  โดยในหนังสือแจ้งถึงลำดับพิธีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน  

โดยพิธีดังกล่าวจะมีขึ้นก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ในเวลา 09.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม ที่ห้องรับรองชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1

มีลำดับพิธีฯ ดังนี้ เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมในการปฏิบัติงาน จากนั้น เวลา 08.45 น. เรียนเชิญคณะรัฐมนตรีเข้าประจำจุดยืน ณ ห้องรับรองชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 
 

เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงห้องรับรองชั้น 5 เจ้าหน้าที่เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าประจำจุดยืนหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเชิญพระราชดำรัสวางบนพานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายกรัฐมนตรี เข้ารับพระราชดำรัสและกลับมายืน ณ จุดเดิม คณะรัฐมนตรีเข้ารับพระราชดำรัสตามลำดับ และถวายความเคารพพร้อมกัน ก่อนจะเสร็จพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหนังสือดังกล่าวได้แจ้งถึงการแต่งกายของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยให้สวมใส่เสื้อผ้าไทยแขนยาว ประดับเข็มที่ระลึก “ม.ว.ก.” พระราชทานในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 และประดับเข็มตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้มีการส่งหนังสือแจ้งคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงลำดับพิธีฯ ปรากฏว่าในช่วงเย็น ทางรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่ที่จะใช้ในพิธี ในห้องรับรอง ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1