เปิดเบื้องลึก ‘ถมทะเล3พันไร่’ ประโยชน์ตกที่ใคร?

25 ส.ค. 2562 | 07:00 น.

 

ในรายการ News Room ห้องข่าวเศรษฐกิจ ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-11.30 . ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นช่อง 22 ดำเนินรายการโดย บากบั่น บุญเลิศ และ วิลาสินี แวน ฮาเรน ช่วง  “ลึกแต่ไม่ลับ กับ บาบั่น  บุญเลิศ” เมื่อวันที่21​ สิงหาคมที่ผ่านมา พาไปวิเคราะห์เจาะลึกโครงการถมทะเล 3,000 ไร่ของรัฐบาล เพื่อทำปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่กำลังเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่ในขณะนี้

จุดเริ่มของเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 เมื่อปรากฏภาพผู้บริหารระดับสูงของเอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น บริษัทนํ้ามัน ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เข้าพบคณะรัฐมนตรีของไทยเพื่อขอให้รัฐบาลสนับสนุน จัด สรรพื้นที่และถมทะเลเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของเอ็กซอนโมบิล

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 แจ็ก พี.วิลเลี่ยมส์ รองประธานอาวุโส บริษัท เอ็กซอนโมบิลฯ เข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของไทย ระบุว่า เอ็กซอนโมบิล มีแผนที่จะลงทุนสร้าง ศูนย์ปิโตรเคมีในประเทศไทย มูลค่าการลงทุนประมาณ 160,000-200,000 ล้านบาท แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มีที่ดิน!!!

 

เปิดเบื้องลึก  ‘ถมทะเล3พันไร่’  ประโยชน์ตกที่ใคร?

 

ปลายเดือนมีนาคม 2561 รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับเรื่องและให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเพื่อจัดหาพื้นที่ 600-700 ไร่ให้กับเอ็กซอนโมบิล พร้อมกับเสนอพื้นที่ตั้งโรงงานปิโตรเคมีที่บริเวณแหลมฉบัง .ศรีราชา .ชลบุรี เพราะต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนจากอเมริกาลงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลไทย

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2561 คณะทำงานได้ส่งรายงานให้กับคณะทำงานอีอีซีพร้อมกับรายงานว่ามีปัญหา ซึ่งระหว่างนั้น แจ็ก พี.วิลเลี่ยมส์ ก็ได้เข้าพบ นายอุตตม สาวนายน ที่ขณะนั้นนั่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอให้รัฐบาลไทยถมท่าเรือบริเวณโรงกลั่น บริษัท เอสโซ่ฯ แต่เรื่องก็เงียบหาย ก่อนจะปรากฏกระแสข่าวกดดันรัฐบาลไทยออกมาว่า เอ็กซอนโมบิลจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศเวียดนาม

 

 

กระทั่งมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2562 นายปีเตอร์ เฮย์มอน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอก อัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันถึงแผนการลงทุนของเอ็กซอนโมบิลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขอขยายพื้นที่จาก 600-700 ไร่ริมทะเล เป็น 1,000-1,500 ไร่ เม็ดเงินลงทุนกว่า 300,000 ล้านบาท ตอกยํ้าให้เห็นถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการผลักดันโครงการนี้กับรัฐบาลไทย

เกิดเสียงคัดค้านของกลุ่มเอ็นจีโอที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เนื่องจากการถมทะเลจะทำให้เกิดการผันแปรในน่านนํ้าไทย เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลไทย และจุดปักหมุดที่เอ็กซอนโมบิลหมายตาเอาไว้นั้น ไม่ใช่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง .ศรีราชา .ชลบุรี ตามที่รัฐบาลไทยเคยเสนอให้เมื่อคราวที่ นายแจ็ก พี. วิลเลี่ยมส์ รองประธานอาวุโส เอ็กซอนโมบิล เข้าพบนายสมคิด รองนายกฯ เมื่อปี 2561 แต่ต้อง การพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งโรง กลั่นนํ้ามันของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอ็กซอนโมบิล และพื้นที่ใกล้เคียงกับบริษัท ไทยออยล์ฯ นั่นก็คือ บริเวณของอ่าวอุดม บนเกาะสีชัง

จากข้อเรียกร้องของ เอ็กซอนโมบิล ที่ขอให้รัฐบาลไทยถมทะเล ครั้งแรกประมาณ 600-700 ไร่ ก่อนจะขอขยายพื้นที่เป็น 1,500 ไร่ และ 3,000 ไร่ของรัฐบาลในครั้งนี้ นายสุริยะ เจ้ากระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งโต๊ะชี้แจงกับสื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่า

 

เปิดเบื้องลึก  ‘ถมทะเล3พันไร่’  ประโยชน์ตกที่ใคร?

 

ทุกสิ่งมีปัญหา 2 ด้านเสมอ ผลกระทบต้องมีแน่แต่เราจะควบคุมได้อย่างไรให้เกิดผล กระทบน้อยที่สุด แต่ผลทาง เศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดการจ้างงาน ลองคิดดูว่า เมื่อมีการลงทุนสร้างโรงงานมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทที่ต้องใช้อิฐ หิน ปูน ทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ในประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงานนับหมื่นๆ คน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาในภาพรวม และอยากจะทำเพื่อประโยชน์เศรษฐกิจของไทย

 

 

ล่าสุดได้สั่งการให้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (กนอ.) ไปดำเนินการศึกษา ซึ่งได้ดำเนินการจ้าง สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ไปศึกษาแนวทางผลได้ผลเสียความคุ้มค่าและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการถมทะเลพื้นที่ 3,000 ไร่ และเร่งรัดให้จัดทำรายงานให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

 

เปิดเบื้องลึก  ‘ถมทะเล3พันไร่’  ประโยชน์ตกที่ใคร?

 

ในช่วงท้าย นายบากบั่น ตั้งข้อสังเกตพร้อมทิ้งคำถามสำคัญไว้ว่า ในอนาคตอีก 4-5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีโรง งานอุตสาหกรรมใหม่เกิดขึ้น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะเติบโตต่อไปอีก 10 ปี โครงการนี้ เอ็กซอนโมบิล และ ไทยออยล์ ได้ประโยชน์ แต่มีไอ้โม่งที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปก่อนเต็มๆ นั่นก็คือ กลุ่มธุรกิจผู้รับเหมาถมที่ถมทรายในพื้นที่นั้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้เคยโกยเงินเข้ากระเป๋ากันมาแล้วกว่า 7,800 ล้านบาท จากโครงการถมทะเลสร้างสนามบินสุวรรณภูมิในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร

ครั้งนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศข้ามประเทศว่า จะถมทะเลบริเวณจังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 20,000-30,000 ไร่เพื่อขายให้กับนักลงทุนต่างชาติในราคาไร่ละ 20-30 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงาน บอกว่าจะหาเงินเข้าประเทศและสร้างเมืองใหม่มูลค่านับแสนๆ ล้านบาทได้ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง รวมถึงนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงานในสมัยนั้นให้การสนับสนุน บอกว่า นี่คือโลกใหม่ที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3499 วันที่ 25-28 สิงหาคม 2562

เปิดเบื้องลึก  ‘ถมทะเล3พันไร่’  ประโยชน์ตกที่ใคร?