e-Commerce เช็กเติบโตมากสุดในยุโรป....โอกาสทองค้าปลีกไทย

19 ส.ค. 2562 | 03:29 น.

 

                                                                                           

 

 

บทความพิเศษโดย  : อุรีรัชต์ เจริญโต  เอกอัครราชฑูต ณ. กรุงปราก

 

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาพันธ์พาณิชย์และการท่องเที่ยวเช็ก (Czech Confederation of Commerce and Tourism) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรม e-Commerce ของสาธารณรัฐเช็กมีอัตราการเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคยุโรป และยังคาดการณ์ว่าในระหว่าง ปี ค.ศ.2019 - 2021 จะมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 16% ต่อปี

 

การพัฒนาด้าน e-Commerce ของเช็กเริ่มขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1995 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลได้ยกเลิกการผูกขาดการให้บริการอินเตอร์เน็ต และเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้จากที่บ้าน โดยระหว่างปี ค.ศ.1998 – 1999 พบว่ามีประชาชนเพียง 27% เท่านั้นที่มีคอมพิวเตอร์ และในจำนวนดังกล่าวมีเพียง 33% ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าในปลายศตวรรษที่ 20 พัฒนาการด้าน e-Commerce ของเช็กยังเติบโตอย่างเชื่องช้าเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาเดียวกันมีชาวอเมริกันที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ถึง 113 ล้านคน และการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของชาวอเมริกันในยุคนั้นแล้ว

e-Commerce เช็กเติบโตมากสุดในยุโรป....โอกาสทองค้าปลีกไทย

ทว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อุตสาหกรรม e-Commerce ของเช็กเริ่มมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
การซื้อขายสินค้าออนไลน์เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2000 โดยมีมูลค่าราว 3.56 ล้านยูโร และต่อมาในปี ค.ศ. 2005 มีมูลค่าสูงถึง 451 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2004 ถึง 40% ในปี ค.ศ. 2018 ตลาด e-Commerce ของเช็กมีมูลค่าสูงถึง 5.25 พันล้านยูโร เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าประมาณ 2.6 พันล้านยูโร โดยมูลค่าดังกล่าวคิดเป็น 10-11% ของมูลค่าการค้าปลีกภายในประเทศ ปัจจุบันเช็กมีประชากรที่ใช้บริการ e-Commerce กว่า5.1 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ และยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อผ่านระบบออนไลน์ ได้แก่ สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์ไฟฟ้า มัลติมีเดีย อาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เฟอร์นิเจอร์ และของเล่น

 

จากข้อมูลของสมาคม e-Commerce เช็ก ในปัจจุบันเช็กมีร้านค้าออนไลน์(e-Shop) กว่า 36,000 – 40,000 และจากสถิติพบว่า ปริมาณสินค้ากว่า 43% ของตลาดค้าปลีกในเช็ก (ยกเว้นสินค้าด้านอาหาร) มีการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์สูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรป ในขณะที่ปริมาณเฉลี่ยของอียูเท่ากับ 24% เท่านั้น

e-Commerce เช็กเติบโตมากสุดในยุโรป....โอกาสทองค้าปลีกไทย

ปัจจุบันธนาคารเช็กมีการพัฒนาระบบ online banking ควบคู่กับการพัฒนาระบบป้องกันการโจมตีทาง
ไซเบอร์อย่างเป็นระบบทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น ทำให้การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์และการทำธุรกิจบนมือถือ (Mobile e-Commerce) ในเช็กมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้านนวัตกรรม ค.ศ. 2019 – 2030 ยังเป็นตัวผลักดันที่สำคัญที่ทำให้เกิดการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของประเทศเพื่อรองรับการปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัลในอนาคต

 

สำหรับตลาด e-Commerce ของเช็กมีการเติบโตสูงที่สุดในยุโรป อยู่ที่อัตรา 16% ต่อปี ตามมาด้วยอิตาลี (14%) สเปน (13.5%) และนอร์เวย์ (13%) โดยผู้ประกอบการเช็กมีแนวโน้มที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง เช่น ฮังการี โครเอเชีย มาซิโดเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวี เนื่องจากที่ผ่านมามูลค่าการค้าปลีกผ่าน e-Commerce ของเช็กกับกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีสัดส่วนน้อย ในขณะที่อัตราการเติบโตของมูลค่าการขายสินค้ากับกลุ่มประเทศเหล่านี้สูงถึง 20% จึงนับว่าเป็นตลาดที่สำคัญของธุรกิจ e-Commerce ของเช็กในอนาคต ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการเช็กยังให้ความสนใจภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจีนเป็นประเทศที่เช็กให้ความสนใจในการศึกษารูปแบบ e-Commerce และระบบการชำระเงินออนไลน์ เนื่องจากมีระบบการขายสินค้าออนไลน์และการชำระเงินผ่าน applications และ online banking ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมหาศาล

 

หากพิจารณาถึงโอกาสของผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจ e-Commerce ในเช็กนั้น ถือว่ายังเป็นตลาดที่มีความท้าทายอยู่พอสมควร เนื่องจากผู้บริโภคชาวเช็กยังคงมีพฤติกรรมการบริโภคแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative) โดยยังคงเชื่อมั่นในสินค้าและบริการที่ผลิตในเช็กเอง ฉะนั้นผู้ประกอบการและผู้ค้าปลีกจึงต้องมุ่งทำการตลาดและโฆษณาสินค้าแบบ e-marketing/digital marketing ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างค่านิยมและส่งเสริมให้ผู้บริโภคเช็กเกิดความรู้สึกอยากทดลองและเชื่อมั่นในตัวสินค้ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายนับว่ามีความจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ e-Commerce ในเช็กเป็นอย่างยิ่ง

e-Commerce เช็กเติบโตมากสุดในยุโรป....โอกาสทองค้าปลีกไทย

ในโอกาสที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปราก ได้นำคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนเช็กเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมงาน Startup Thailand 2019 และเข้าหารือกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
e-Commerce และ startup และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อหารือถึงโอกาสในการส่งเสริมและขยายความร่วมมือระหว่างไทย-เช็ก ระหว่างวันที่ 22 – 30 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น หนึ่งในผู้แทนภาคเอกชนเช็กที่ได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้คือ ผู้แทนจากบริษัท Retailys ซึ่งเป็น บริษัท startup เช็ก ด้าน
e-Commerce ที่มีความร่วมมือกับบริษัท e-Commerce ชั้นนำของโลก อย่าง e-bay, Amazon, Ali Express รวมทั้ง Lazada ของไทย นอกจากนี้บริษัทยังมีความสนใจที่จะขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียดังนั้น บริษัทจึงสามารถเป็นสะพานเชื่อมให้กับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะส่งสินค้าไปขายในเช็กและตลาดอียูได้ โดยที่ไทยและเช็กเป็นประเทศที่มีวิวัฒนาการของระบบ e-Commerce ที่ใกล้เคียงกันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และประเด็นปัญหาในการพัฒนาระบบธุรกิจ e-Commerce จะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวในการพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตตามนโยบายของรัฐบาลของทั้งสองประเทศ รวมทั้งหากผู้ประกอบการ e-Commerce ของไทยและเช็กสามารถนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจของแต่ละฝ่ายไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในแต่ละภูมิภาคก็จะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างสามารถปรับตัวให้เข้ากับทิศทางของระบบ e-Commerce ในโลกยุคปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น