สศอ.เล็งปรับมาตรการส่งเสริมรถอีวีดันไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค

07 ส.ค. 2562 | 10:30 น.

สศอ.เตรียมทบทวนปรับหลักเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า  หวังตอบโจทย์อุตสาหกรรม  ชี้รถยังมีราคาที่สูงเกินไปประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึง  พร้อมหามาตรการดึงดูดเทคโนโลยีมาลงทุนในไทย  และส่งเสิรมใหมีสถานีชาร์จไฟฟ้ามากขึ้น

สศอ.เล็งปรับมาตรการส่งเสริมรถอีวีดันไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค

นายณัฐพล  รังสิตพล  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า  สศอ.อยู่ระหว่างพิจารณาปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งในไทย  เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูงเกินไป  ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้  เพราะฉะนั้น  จึงต้องออกมาตรการเข้ามาเสริมเพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาต่ำกว่า 8 แสนบาทต่อคัน  ซึ่งในมาตรการใหม่นี้ จะเพิ่มการส่งเสริมเพื่อให้เกิดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก รวมไปถึงรถสามล้อไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เพื่อให้มีราคาต่ำลงจนคนทั่วไปเข้าถึงได้

ทั้งนี้  ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่สามารถขยายให้กว้างออกไปได้มีปัจจัยหลักสำคัญมาจากเรื่องของราคาที่สูงเกินไป  โดยปัจจุบันมีราคาตั้งแต่ 1.2 ล้านบาทขึ้นไป  ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้  โดยมีผลทำให้ไม่ดึงดูดให้เกิดฐานการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศได้  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากตลาดมีความต้องการมากขึ้น  ก็จะทำให้เกิดการลงทุนผลิตชิ้นส่วนต่างๆในประเทศ  ซึ่งจะมีผลทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดต่ำลง  และทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้มแข็งในภูมิภาคนี้ต่อไป

,2.มาตรการเดิมไม่สามารถดึงดูดเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าหลักเข้ามาลงทุนในไทยได้  ดังนั้น  จึงต้องมีการปรับมาตรการใหม่  เพื่อดึงดูดการลงทุนในชิ้นส่วนหลักๆ เช่น แบตเตอร์รี่  มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ และระบบควบคุมการขับรถ เป็นต้น เพื่อยกระดับให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

และ3. ส่งเสริมให้เกิดการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ามากขึ้น  โดยจะส่งเสริมให้เน้นการผลิตรถยนต์ที่มีระบบชาร์จไฟฟ้า เช่น รถยนต์ปลักอินไฮบริด ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้า และใช้น้ำมันเชื่อเพลิงได้  และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

สศอ.เล็งปรับมาตรการส่งเสริมรถอีวีดันไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค

นายณัฐพล  กล่าวต่อไปอีกว่า  เดิมทีค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่จะมาขอรับการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฮบริดเป็นหลัก  ทำให้มีปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่มีปลั๊กเสียบชาร์จไฟฟ้าอยู่น้อย  เพราะฉะนั้น  จึงต้องปรับมาตรการส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถยนต์ที่มีปลั๊กชาร์จไฟฟ้าให้มากขึ้น  เพื่อให้เกิดการสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าตามมา  อีกทั้งจะต้องหารือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้อาคารจอดรถในคอนโดมิเนียมสามารถชาร์จไฟฟ้าได้  ซึ่งหากมีสถานีชาร์จไฟฟ้ามากก็จะมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น