SCBT  จี้ลงทุนEEC ดันเรตติ้ง-A

28 ก.ค. 2562 | 08:15 น.

สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เฉือนจีดีพีไทยเหลือ 3.3% จากเดิม 4%เหตุความเสี่ยงใน-ต่างประเทศเพิ่ม คาดกลางปี 63 กนง.ปรับดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ต่อปี สิ้นปี 62 เงินบาทยังแข็ง 30.50-31 บาทต่อดอลลาร์ แนะรัฐเร่งเครื่องอีอีซี-หวังยกเรตติ้งขึ้น-A หลังมูดี้ส์ปรับอันดับเครดิตรัฐบาลไทยเป็นบวก 

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จากเดิม 4% เหลือ 3.3% (ไตรมาส 3 ต้องโตกว่า 3% และไตรมาส 4 ต้องสูงกว่า 3.5%) เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น การบริโภค ยอดซื้อรถยนต์ชะลอและภัยแล้งมาในจังหวะที่โลกไม่แน่นอนและปัจจัยต่างประเทศกระทบการส่งออกครึ่งปีแรกที่มีอัตราการเติบโตติดลบ 3% ทั้งปีส่งออกน่าจะทรงตัวอยู่ที่ 0% และมีงบประมาณปี 2562ที่ใช้กระตุ้นราว 8 หมื่น-1 แสนล้านบาทซึ่งจะลดผลกระทบจากการเลื่อนใช้งบประมาณ 

 

SCBT   จี้ลงทุนEEC  ดันเรตติ้ง-A

ทิม ลีฬหะพันธุ์       

กรณีมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยจาก เสถียรภาพเป็น บวกส่วนไทยมีโอกาสจะถูกปรับเรตติ้งจาก BBB+ เป็น -A ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 2 เรื่องคือ เสถียรภาพรัฐบาลใหม่ และรายได้ต่อหัวของประชากร ซึ่งปัจจุบันไทยมีรายได้ต่อหัวราว 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตํ่ากว่ามาเลเซีย  ทั้งนี้ หาเร่งลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รถไฟความเร็วสูง และการเพิ่มมูลค่าการส่งออก และการท่องเที่ยวซึ่งอาจช่วยเพิ่มเรตติ้งเป็น -A

       

ในแง่ดอกเบี้ยนโยบายคาดว่ากลางปีหน้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)มีโอกาสจะปรับขึ้นอยู่ที่ 2%กลางปีหน้า ส่วนแนวโน้มเงินบาทไตรมาสที่ 3ยังคงแข็งค่าอยู่ที่ 30.50-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,491 วันที่ 28-31 กรกฎาคม 2562

SCBT   จี้ลงทุนEEC  ดันเรตติ้ง-A