ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(อีไอซี) ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง“เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย หลังรัฐทุ่มลงทุนรถไฟไทย-จีนเต็มร้อย”
Event:
•เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยว่าได้ข้อยุติประเด็นการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย แล้ว โดยในหลักการ ไทยจะลงทุนดำเนินการเองทุกขั้นตอน โดยไม่มีการให้สัมปทานหรือร่วมลงทุนกับจีนตามเดิม และจะเริ่มสร้างรถไฟเส้นทาง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นอันดับแรก แล้วจึงจะขยายไปยังช่วงอื่นต่อไปในอนาคต
Implication:
•อีไอซีแนะจับตาหนี้สาธารณะต่อ GDP และแนวทางการระดมเงินทุนซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับสถาบันการเงินภายในประเทศโครงการรถไฟไทย-จีนมีมูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งการที่ฝ่ายไทยจะลงทุนด้านการเงินทั้งหมด 100% อาจส่งผลกระทบต่อกรอบวินัยความยั่งยืนทางการคลัง โดยอีไอซีประเมินว่าเงินที่ไทยต้องลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งโครงการจะเพิ่มหนี้สาธารณะต่อ GDP ราว 1.5% และเมื่อผนวกกับโครงการเมกะโปรเจกต์อื่นๆ ของภาครัฐ อาจทำให้ยอดหนี้สาธารณะต่อ GDP ของไทยมีค่าเกิน 50% ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างน่ากังวล จึงทำให้การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund: TFF) เพื่อใช้เป็นช่องทางในการระดมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่กระทบกับหนี้สาธารณะยิ่งมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากแผนการก่อสร้างใหม่จะทยอยก่อสร้างในบางเส้นทาง ต่างจากการก่อสร้างทุกเส้นทางในเวลาไล่เลี่ยกันเหมือนแผนการก่อนหน้า ทำให้ภาครัฐยังคงมีเวลาในการแสวงหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านเงินทุนของประเทศโดยที่ไม่กระทบวินัยทางการเงินการคลัง
ที่มา: ผู้เขียน: อิสระสรรค์ กันทะอุโมงค์
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์