‘มหาเธร์’ ชวนไทยลงทุนในมาเลเซียเพิ่มมากขึ้น

23 มิ.ย. 2562 | 05:54 น.

ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายรัฐมนตรี วัย 94 ปีของมาเลเซีย กล่าวกับคณะผู้บริหารและผู้นำด้านธุรกิจของไทยระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ (22-23 มิ.ย. 2562) ว่า ปัจจุบันการลงทุนของมาเลเซียในประเทศไทยนั้นมีมากกว่าการลงทุนของไทยในมาเลเซีย เขาเชื่อว่าทั้งประสิทธิภาพในการผลิตและทักษะความเชี่ยวชาญที่ไทยมีอยู่สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสอันดีที่บริษัทไทยจะเข้าไปลงทุนในมาเลเซียได้อีกมาก

ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด

 

ในส่วนของมาเลเซียนั้น แม้ว่าเพิ่งจะมีรัฐบาลชุดใหม่ แต่ก็มั่นใจได้ว่ารัฐบาลมาเลเซียชุดนี้จะยังคงดำเนินนโยบายหนึ่งอย่างต่อเนื่อง นั่นคือการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ พยายามช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้  “แน่นอนว่ามีกฎหมายและบทบัญญัติต่างๆที่ผู้ลงทุนจะต้องปฏิบัติตาม แต่เราก็ปรับปรุงและกระชับกฎกติกาเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เราจึงหวังว่าบริษัทของไทยจะเข้ามาลงทุนในมาเลเซียมากยิ่งขึ้นและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของมาเลเซีย และขณะเดียวกันผมก็พร้อมจะส่งเสริมให้บริษัทมาเลเซียออกมาลงทุนในไทยมากขึ้นเช่นกัน ด้วยมาตรการต่างๆที่เราจะสามารถส่งเสริมการค้าทวิภาคี  เช่น การเอื้ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้า การส่งเสริมการขนส่งทางระบบราง และการเพิ่มคุณภาพด้านการสื่อสาร”

 

ผู้นำของมาเลเซียยกตัวอย่างโครงการที่เพิ่งเปิดตัวและเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อราวๆช่วงกลางเดือนนี้ (18 มิ.ย.) นั่นคือการเปิดใช้ด่านชายแดน 24 ชั่วโมง “ผมเชื่ออย่างมากว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างไทยและมาเลเซีย การค้าชายแดนนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้การค้าสองฝ่ายระหว่างไทยและมาเลเซียมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีความต่อเนื่องมาโดยตลอด”

 

ทั้งนี้ เดอะ สตาร์ สื่อท้องถิ่นของมาเลเซีย รายงานว่า ด่านชายแดน 24 ชั่วโมงดังกล่าวนั้น ในฝั่งของมาเลเซีย คือด่านบูกิต กายู  หิตัม ซึ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านกักกันโรคพืชและสัตว์ ขณะที่ฝั่งไทย เป็นด่านสะเดา จังหวัดสงขลา  เป้าหมายของการเปิดด่าน 24 ชั่วโมงก็เพื่อยกระดับการเชื่อมโยงระหว่างกัน (connectivity) และส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ขั้นต้นจะมีการทดลองดำเนินการเป็นเวลา 3 เดือนสำหรับการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกและพาหนะขนาดใหญ่ ทั้งไทยและมาเลเซียมีการตั้งทีมประเมินผลการดำเนินงานระยะทดลอง 3 เดือนนี้ด้วย

 

ปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ลำดับที่ 5 ของมาเลเซีย มูลค่าการค้าทวิภาคีโดยรวมอยู่ที่ระดับ 105,360 ล้านริงกิต หรือกว่า 7.8 แสนล้านบาทในปี 2561 โดยในจำนวนนี้เป็นมูลค่าการค้าข้ามชายแดนในสัดส่วนมากกว่า 60%