ระยะสั้น ราคาทองคำยังผันผวน

14 พ.ค. 2562 | 11:53 น.

สภาวะตลาดทองคำวันที่ 14 พฤษภาคม  ราคาแกว่งตัวในกรอบ  1,296.60-1,303.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศขายออกอยู่ที่  19,400 บาทต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM19 อยู่ที่ 19,490 บาท เพิ่มขึ้น 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,360 บาท

          แนวโน้มวันที่ 15 พฤษภาคม 2019

          จีนท้าทายสหรัฐด้วยการประกาศภาษีตอบโต้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐส่งสัญญาณความมุ่งหมายว่า จะเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน หากจีนมีการตอบโต้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า เตรียมจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์สหรัฐทั้งหมด 5,140 รายการ โดยจะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติม 5%, 10% และ  25% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เล็งเป้าหมายที่ได้รับการปรับแล้วในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เป็นการเพิ่มความร้อนแรงต่อประเด็นสงครามการค้า ความขัดแย้งระลอกล่าสุดกระทบตลาดหุ้นทั่วโลก และกดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมาก จนดันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ระยะสั้น ราคาทองคำยังผันผวน

ทั้งนี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Societe Generale กล่าวว่า การเก็บภาษีรอบล่าสุดของสหรัฐและจีนต่อสินค้านำเข้าของซึ่งกันและกัน อาจจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง 0.15% และทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนลดลง 0.5% และ GDP ของสหรัฐลดลง 0.25% ขณะที่ เทรดเดอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐเพิ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปี 2019 เพื่อต้านภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ทวีความรุนแรง โดยสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ว่า เทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาสเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74% เทียบกับเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ 64% ที่เฟดจะลดช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ 2.00-2.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 10-11 ธ.ค.ปีนี้

 แนวโน้มดังกล่าวสร้างมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ประเด็นสงครามการค้ายังคงมีความผัวผวน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าเก็บภาษีเพิ่มต่อสินค้าจีนอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ และระบุว่าเขาวางแผนประชุมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ณ การประชุมสุดยอ G20 ในวันที่ 28 – 29 มิ.ย.ที่ญี่ปุ่น ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลในเชิงบวก ความเห็นล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้นและมีแรงขายทำกำไรทองคำสลับออกมาบ้าง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าแม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา หากแรงขายไม่มากหรือราคาไม่หลุดแนวรับโซน 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวโน้มราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยประเมินบริเวณแนวต้าน 1,307-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวหรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม

            กลยุทธ์การลงทุน  มีมุมมองว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น โดยประเมินแนวรับที่ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,307-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ราคาทองคำอาจมีการย่อตัวลงมาอีกครั้ง แต่หากผ่านได้ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่า ทองคำมีความ

ระยะสั้น ราคาทองคำยังผันผวน