สูงแค่ไหนก็ไปถึง ตะลึง! ภูเขาขยะล้นเอเวอเรสต์
กระทรวงการท่องเที่ยว ประเทศเนปาล เผยข้อมูลชวนตะลึงหลังส่งทีมงานอาสาสมัครเก็บขยะ 14 คนไปลงพื้นที่เพื่อเก็บขยะบริเวณภูเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาหิมาลัยและได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีความสูงมากที่สุดในโลก (8,848 เมตร หรือประมาณ 29,028 ฟุต) และเป็นสถานที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดานักปีนเขาและนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชมและพิชิตความสูงของยอดเขาแห่งนี้
หลังจากที่ทางการเนปาลได้ริเริ่มโครงการลดปริมาณขยะบนภูเขาเอเวอเรสต์และสั่งปิดพื้นที่เป็นการชั่วคราว (เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.2562) เพื่อทำความสะอาดและเก็บขยะที่ผู้คนนำมาทิ้งไว้บนภูเขา พบว่าในช่วงเพียง 2 สัปดาห์แรกของการเก็บกวาด อาสาสมัครรวบรวมขยะได้เป็นปริมาณมากถึง 3 ตัน หรือ 3,000 กิโลกรัม! เมื่อทีมงานคัดแยกขยะแล้ว ประมาณเกือบๆ 1 ใน 3 ของขยะทั้งหมดจะถูกนำไปส่งยังโรงงานรีไซเคิลขยะที่เมืองหลวงกาฐมาณฑุโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ในการลำเลียง ส่วนที่เหลือจะนำไปถมที่บ่อขยะในเมืองโอคาลธุงกา
ในปี 2556 รัฐบาลเนปาลได้เริ่มนำระบบวางเงินมัดจำมาใช้เพื่อจูงใจให้กลุ่มนักท่องเที่ยวและนักปีนเขานำขยะของตัวเองกลับลงมาจากภูเขาด้วยหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยในระบบดังกล่าว กลุ่มนักปีนเขาจะต้องนำขยะกลับลงมาด้วยอย่างน้อย 18 ปอนด์ หรือประมาณ 8.16 กิโลกรัม ไม่เช่นนั้นจะถูกริบเงินมัดจำ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( ประมาณ 132,000 บาท) แต่แม้จะมีระบบมัดจำการเก็บขยะในราคาแสนแพงเช่นนี้ ยังปรากฏว่า มีนักปีนเขาจำนวนไม่ถึงครึ่งของทั้งหมด ที่หอบหิ้วเอาขยะกลับลงมาด้วย
สถานการณ์วิกฤติขยะดังกล่าว ไม่ได้มีเฉพาะที่เนปาล เพราะในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีสถานีเชิงภูเขาเอเวอเรสต์ต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักปีนเขาเช่นกัน ก็เพิ่งปิดสถานีฐาน งดรับนักท่องเที่ยวและอนุญาตเฉพาะนักปีนเขา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อทำความสะอาดและควบคุมปัญหาขยะอันเนื่องมาจากมีจำนวนผู้มาเยือนยอดเขาเอเวอเรสต์มากจนเกินไป สถิติของจีนชี้ว่า จากปัจจุบันนับย้อนหลังไป 65 ปี มีผู้สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์จำนวน 4, 000 คน และเฉพาะในปีที่ผ่านมา (2561) ก็มีถึง 807 คน ในแต่ละปีมีผู้มาเยือนสถานีเชิงเขาเอเวอเรสต์จำนวนเพิ่มขึ้นหลายพันคน โดยช่วงฤดูกาลที่คนนิยมปีนเขามากที่สุดจะเริ่มขึ้นราวๆเดือนเมษายน และนั่นก็หมายถึงฤดูกาลแห่งขยะที่จะพอกพูนเพิ่มขึ้นบนภูเขาเอเวอเรสต์ทั้งในฝั่งจีนและเนปาล
อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้หิมะและน้ำแข็งละลาย เผยให้เห็นขยะใต้ผืนน้ำแข็งที่ผุดขึ้นมามากมายก่ายกอง ยิ่งใกล้ถึงยอดเขา จำนวนขยะก็ยิ่งมากขึ้น เนื่องจากนักปีนเขาที่ปีนสู่ระดับความสูงยิ่งๆขึ้นไป จะมีอากาศหายใจน้อยลง เหนื่อยง่ายขึ้น และต้องการปลดภาระตัวเองให้เบาที่สุด จึงตัดสินใจทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างเอาไว้ก่อนจะถึงยอดเขา ดังนั้น ท่ามกลางกองขยะที่อาสาสมัครขึ้นไปเก็บกวาดลงมาจึงมีทั้งเต็นท์ อุปกรณ์ปีนเขา ถังออกซิเจน ขวด กระป๋อง สิ่งปฏิกูลจากมนุษย์ หรือแม้กระทั่งซากศพของนักปีนเขาที่สูญหายไประหว่างทาง
รัฐบาลเนปาลคาดว่า ภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่ปิดภูเขาเอเวอเรสต์เพื่อทำความสะอาดครั้งนี้ อาสาสมัครจะเก็บขยะลงมาได้อย่างน้อย 10 ตัน
