วิตกสงครามการค้ารอบใหม่ ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 66.47 จุด

07 พ.ค. 2562 | 00:13 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) วิตกสงครามการค้ารอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ  ขู่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

         

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,438.48 จุด ลดลง 66.47 จุด หรือลบ 0.25%  ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,123.29 จุด ลดลง 40.71 จุด หรือลบ 0.50% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,932.47 จุด ลดลง 13.17 จุด หรือลบ 0.45%

           

ดัชนีดาวโจนส์เปิดร่วงลงหนักและเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ ( 10 พ.ค.) จากเดิมที่ระดับ 10% เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ มีความคืบหน้า "ช้าเกินไป"  พร้อมระบุว่า จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้านี้           

ขณะที่นายไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เวลา 12.01 น.ตามเวลาสหรัฐ  โดยนายไลท์ไฮเซอร์ยังคาดว่านายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาการค้ากับสหรัฐในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ

         

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่า สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะพิจารณาทบทวนมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากการเจรจาดำเนินไปด้วยดี

           

โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ ร่วงลง โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.37% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 1.65% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.01% รวมทั้งหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพ ร่วงลง 1.7%