“ธนาธร”จ่อซวยอีกหนีไม่พ้น“คุก”คดีรับรองผู้สมัครส.ส.สกลนครขาดคุณสมบัติ

24 เม.ย. 2562 | 08:17 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

“ธนาธร”จ่อซวยอีกในคดีอาญา ปมรับรองผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 6 ขาดคุณสมบัติลงสมัคร หลังศาลฎีกาชี้ชัดไม่มีสิทธิสมัครเหตุถือหุ้นสื่อ

วันนี้ (24 เม.ย.)  ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่า นอกจากคำร้องกรณีให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีการถือครองหุ้นสื่อแล้ว ยังพบว่านายธนาธร อาจถูกตรวจสอบกรณีลงนามเอกสารรับรองส่งผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง 

โดยมีผู้สมัครบางคน เช่น นายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง  มีคำสั่งถอนชื่อออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.  เนื่องจากนายภูเบศวร์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด  มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส  ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์  จึงถือว่าผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่คนดังกล่าวมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98  และกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 42  โดยศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายภูเบศวร์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา 

“ธนาธร”จ่อซวยอีกหนีไม่พ้น“คุก”คดีรับรองผู้สมัครส.ส.สกลนครขาดคุณสมบัติ
 

ทั้งนี้  มาตรา 49 วรรค 2 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง  กำหนดว่าในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ  จึงถือว่าหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค  จะต้องมีความรับผิดชอบในการส่งผู้สมัครที่คุณสมบัติไม่ครบด้วย ซึ่งตามกระบวนการ กกต.จะดำเนินคดีกับตัวผู้สมัครก่อน  ตามมาตรา 151 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่า ผู้สมัครใดรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติมีสิทธิรับเลือกตั้ง  เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10  ปี  ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี  จากนั้นจะต้องมีกระบวนการเอาผิดทางอาญากับหัวหน้าพรรคต่อ ฐานเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และมาตรา 86