ครม. เติม 5 พันล้าน ช่วยชาวนาเพิ่มอีก 2.7 แสนครัวเรือน

12 มี.ค. 2562 | 10:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ครม. อนุมัติเงินช่วยเกษตรผู้ปลูกข้าว นาปี 61/62 เพิ่มเติมอีกกว่า 5 พันล้าน พร้อมเห็นชอบช่วยเหลือหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรประสบภัยปาบึก 14.7 ล้านบาท

ครม. เติม 5 พันล้าน ช่วยชาวนาเพิ่มอีก 2.7 แสนครัวเรือน

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติให้เพิ่มงบประมาณช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและเพิ่มคุณภาพข้าวให้แก่ข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 ที่ดำเนินการโดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 4,057,310 ครัวเรือน กรอบวงเงิน 56,474.02 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ 1,500 บาทต่อไร่ ครอบครัวละไม่เกิน 12 ไร่ รวมเป็นเงินไม่เกิน 18,000 บาท ซึ่งผลจากการลงทะเบียนที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2562 มีเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 278,824 ครัวเรือน จำนวนที่นา 3,483,539 ไร่ คิดเป็นงบประมาณรวม 5,225.31 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ครม. ยังมีเห็นชอบโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก จำนวน 14.7176 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยขอรับการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อดำเนินโครงการ ในอัตรา 3% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน (เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2562) ซึ่งจะทำให้สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำการเกษตรและผลผลิตได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึก สามารถบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุน จำนวน 6,868 ราย เฉลี่ยรายละ 2,140 บาท

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติพายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2562 เป็นต้นมา ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรและผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 6,868 ราย ในพื้นที่ 9 จังหวัด ในภาคใต้และภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา และสุราษฎร์ธานี มูลหนี้ต้นเงินกู้รวม 974.8028 ล้านบาท
 

สำหรับผู้ได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่สมาชิกประกอบอาชีพการเกษตร และเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเกษตรได้รับความเสียหายด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ และมีพื้นที่ทำกินที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโซนร้อนปาบึก และพื้นที่การเกษตรและผลผลิตได้รับความเสียหาย ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2561 และประกอบกิจกรรมการเกษตรในช่วงที่ผ่านมา ตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลเกษตรแต่ละด้านของ กษ. ตามประเภทการผลิตของตนก่อนเกิดภัยพิบัติ เช่น ปลูกพืช (กรมส่งเสริมการเกษตร) เลี้ยงสัตว์ (กรมปศุสัตว์) หรือ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (กรมประมง) เป็นต้น

การให้ความช่วยเหลือนั้น หากเกษตรกรรายใดได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ด้าน ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียง 1 ด้าน โดยยึดการให้ความช่วยเหลือ 1 สัญญาต่อ 1 ครัวเรือน มีสัญญาเงินกู้เพื่อการผลิตทางการเกษตรปี 2561 โดยต้องเป็นสัญญาเงินกู้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ประสบภัยของสมาชิกตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่นั้น ๆ และได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากพายุโซนร้อนปาบึก ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน (ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2562)

ครม. เติม 5 พันล้าน ช่วยชาวนาเพิ่มอีก 2.7 แสนครัวเรือน