สมาคมผู้ค้าปลีกไทยยัน! ควรกำหนดสัมปทานดิวตี้ฟรีแบบหลายประเภทสินค้า เพราะผูกขาดจะขาดความเชี่ยวชาญ มั่นใจ! ดันรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
ตามที่ คณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) บอร์ด ทอท. ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 3 / 2562 วันที่ 20 ก.พ. 2562 เรื่อง : หลักเกณฑ์การให้สิทธิและเห็นชอบแนวทางในการให้สิทธิประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. โดยให้แยก 3 สัญญาใหญ่ ได้แก่ กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) กิจกรรมเชิงพาณิชย์ (Retail, F&B, Service และ Bank) และกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) ออกจากกัน และเห็นชอบหลักการในการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท. เสนอ ทั้งนี้ ให้ฝ่ายบริหาร ทอท. ตรวจสอบข้อกำหนดและตรวจสอบละเอียดฯ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ก่อนที่จะดำเนินการประกาศต่อไป โดยไม่มีรายละเอียดของหลักการ TOR แต่อย่างใด
[caption id="attachment_392435" align="aligncenter" width="503"]
นายวรวุฒิ อุ่นใจ[/caption]
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยว่า ต้องขอชื่นชมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) บอร์ด ทอท. ที่รับฟังความคิดเห็นข้อเสนอ และขอชื่นชมในมติที่ให้ความเห็นชอบแนวทางในการให้สิทธิประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. โดยให้แยก 3 สัญญาใหญ่ ได้แก่ กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) กิจกรรมเชิงพาณิชย์ (Retail, F&B, Service และ Bank) และกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) ออกจากกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งนี้ กิจการทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ จำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) กิจกรรมเชิงพาณิชย์ (Retail, F&B, Service และ Bank) และกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) แม้ว่าจะเป็นกิจการที่มีความต่อเนื่องสัมพันธ์กัน แต่ก็มีลักษณะของธุรกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งธุรกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) เกี่ยวข้องโดยตรงกับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว ที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะในกลุ่มสินค้าแต่ละกลุ่ม ในขณะที่ ส่วนของกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (Retail, F&B, Service และ Bank) เป็นธุรกิจบริการที่มาส่งเสริมให้การเดินทางช่วงผ่านสนามบินเป็นไปอย่างมีความสุขสนุกสนาน เกิดความประทับใจ
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีรายละเอียด TOR ของกิจการทั้ง 3 ส่วนดังกล่าว สมาคมฯ ใคร่ยืนยันตามข้อเสนอที่ได้นำส่งให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่ผ่านมา ว่า สมาคมฯ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะกำหนดเกณฑ์เงื่อนไขสัมปทานดิวตี้ฟรีสำหรับสนามบินสุวรรณภูมิเป็นแบบรายเดียว (Master Concession) ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท. ได้เคยประกาศและให้ข่าวมาก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯ ได้มีการนำเสนอถึงข้อดีของการกำหนดเกณฑ์สัมปทานแบบหมวดหมู่สินค้า (Concession by Category) มาตลอด และได้มีการยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาข้อเสนออย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังคงยืนยันที่จะนำเสนอให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านรับทราบถึงข้อดีของการสัมปทานแบบหมวดหมู่สินค้า ซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ด้วยพื้นที่ของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีขนาดใหญ่และจำนวนผู้โดยสารที่มีจำนวนมาก เพื่อให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและประชาชน ทั้งนี้ สมาคมยังคงย้ำชัดถึงการใช้ระบบสัมปทานแบบหมวดหมู่สินค้า เช่น หมวดเครื่องสำอาง หมวดสุราและบุหรี่ หมวดสินค้าแฟชั่น จะทำให้มีความหลากหลายของสินค้า สินค้ามีคุณภาพและไม่ถูกจำกัด ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตมากขึ้น จากการที่นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าถูกใจได้มากขึ้น รวมทั้งเชื่อว่า สามารถนำเงินเข้าประเทศได้มากขึ้น 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากการเพิ่มอัตราการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และการดึงคนไทยให้กลับมาใช้จ่ายในประเทศนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของสมาคมผู้ค้าปลีกไทยต่อจากนี้จะยังคงเฝ้าจับตาสถานการณ์การประมูล รายละเอียดเงื่อนไขของการประมูล ตลอดจนกระบวนการในการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติ และการเปิดซองประมูล และรวมถึงกระบวนการหลังการประมูล ทุกขั้นตอน ที่ต้องโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ สมาคมฯ ขอย้ำจุดยืนที่ชัดเจนมาตลอด ว่า ไม่ว่าผลของการประมูลจะเป็นอย่างไร สมาคมฯ ยังคงยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ