King Power = Thailandจิ้งจอกสยามผู้เอาชนะหัวใจคนทั้งโลก ด้วยจิตวิญญาณตะวันออก
King Power = Thailandจิ้งจอกสยามผู้เอาชนะหัวใจคนทั้งโลก ด้วยจิตวิญญาณตะวันออก
“ถ้าคนต่างชาติรู้จักประเทศไทย มาประเทศไทยก็เจอ คิง เพาเวอร์ เอง” ถ้อยคำของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เคยอธิบายเหตุผลของการซื้อบอร์ดโฆษณาที่ไม่ได้เขียนว่า King Power แต่เขียนคำว่า Thailand ให้กับบุตรชาย - คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ความคิดที่เหนือกรอบแต่ให้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่ายิ่งต่อแผ่นดินเกิดที่มีชื่อว่า “ประเทศไทย”
ตลอดห้วงเวลา 3 ทศวรรษจากช่วงชีวิต 60 ปีของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ในการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี
คิงเพาเวอร์ และการเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ หรือเป็นที่รู้จักกันในฉายา จิ้งจอกสยาม บุรุษผู้นี้ไม่ได้มุ่งหวังแต่ผลกำไรแต่ยังนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยไปสู่ต่างแดน ทั้งในแง่ของการให้โอกาสกับเยาวชนไทย และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนจนได้รับการขนานนามให้เรื่องราวการต่อสู้ของคุณวิชัย เข้มข้น ครบรส และเหนือปกติมนุษย์ราวกับเทพนิยาย ด้วยการสร้างฝันที่ไม่อาจเป็นไปได้ให้เป็นจริง ด้วยการทำให้จิ้งจอกสีนํ้าเงินผงาดในสนามอย่างสง่างาม ด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของฟุตบอลเมืองผู้ดีอย่าง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
นอกจากนี้สิ่งที่คุณวิชัยสร้างความแตกต่าง จนทำให้เลสเตอร์กลายเป็นทีมที่มีผลประกอบการด้านนักเตะที่ดี คือ ศิลปะการต่อรอง พวกเขาทำได้อย่างชาญฉลาด เลือกซื้อนักเตะผ่านการใช้ข้อมูลสถิติ ตัวเลข มาวิเคราะห์ จนทำให้คว้าตัวนักเตะดี คุณภาพสูง ราคาประหยัดเข้ามายกระดับทีม เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ, เอ็นโกโล ก็องเต หรือแม้กระทั่งโค้ชที่อยู่ในช่วงขาลงอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรีนอกจากนั้นบุรุษผู้นี้ยังเลือกที่จะมอบโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจด้วยการตั้งเป้าหมายให้ทุกคนพร้อมก้าวไปด้วยกัน ดังเช่นบทความตอนหนึ่งของ แคสเปอร์ ชไมเคิล เล่าว่า “ตอนที่ท่านเซ็นสัญญาผมมาในปี 2011 ท่านบอกผมว่าเราจะไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ในอีก 6 ปีข้างหน้า และเราจะทำเรื่องยิ่งใหญ่ด้วยกัน”
อีกหนึ่งจุดเด่นในแง่ของการบริหารของคุณวิชัย คือ “การสร้างคำว่าทีมภายใต้การอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว” ให้เกิดภายในสโมสร ด้วยการแบ่งตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละบุคคลให้ชัดเจน คอยวางแผนและดูภาพรวม เปิดโอกาสให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ที่สำคัญให้กำลังใจ พร้อมสนับสนุนทุกคนและผู้คนโดยรอบ ไม่ได้อยู่แต่บนหอคอย แต่ยังลงมาพบกับโค้ช นักเตะและม้านั่งสำรองอย่างเป็นกันเอง แตกต่างจากเจ้าของสโมสรรายอื่นทั่วไป ที่จะลงมาพบโค้ชกับนักเตะก็ต่อเมื่อทีมมีปัญหาและกดดันเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น ทำให้บรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลในทุกครั้งทุกคนมีความสุข และภาพรวมของสโมสรแห่งนี้ดูเป็นเอกภาพ และอีกสัจธรรมที่สัมผัสได้ ไม่ว่าสโมสรจะรํ่ารวยเพียงใด หากคุณไม่สามารถสร้างความเป็นหนึ่งดุจดั่งครอบครัวได้ การขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จก็จะใช้เวลานานหรืออาจไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
“การให้” แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของผู้ชายคนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะการให้ไม่ได้ใช้ระยะเวลาเพียง 90 นาทีแล้วเลิกเหมือนจบการแข่งขัน แต่การให้คือการสร้างสุขให้กับตัวเองก่อนที่จะส่งต่อให้กับทุกคน โดยมุมมองหรือภาพใหญ่ที่กลายเป็นภาพจำคือ การจัดทำโครงการ Fox Hunt โดยคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถไปฝึกหัดทักษะพื้นฐานฟุตบอลที่สโมสรฯ เพื่อบ่มเพาะเยาวชนให้กลายเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพและค้าแข้งที่ต่างแดน ทั้งนี้ยังสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อมิติกีฬาของประเทศ อาทิ สร้างสนามฟุตบอล ส่งต่ออุปกรณ์กีฬาอย่างลูกฟุตบอลในโครงการแจกลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก แก่เยาวชนทั่วประเทศไทย เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นยังบริจาคเงิน
2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 102 ล้านบาท) เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลเด็กในเลสเตอร์ จากโครงการระดมทุน 30 ล้านปอนด์เพื่อยกระดับโรงพยาบาล พร้อมมอบทุนการศึกษาให้มหาวิทยาลัยเลสเตอร์อีกด้วย
การจากลาที่ยังอยู่ในความทรงจำ ไม่ถือว่าเลือนหาย แต่ยังมีลมหายใจที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคน การนำพาประเทศไทยไปสู่สากลด้วยแนวคิดและทัศนคติที่มุ่งมั่น ทำให้ไทยในวันนี้ได้รับการยอมรับและเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ มุมคิดที่นอบน้อม การแสดงความเคารพและให้เกียรติทุกคน รวมทั้งให้ความ สำคัญกับการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยการซื้อใจในแนวคิด “ลูกน้องต้องมาก่อน” นั้น ไม่ได้แค่ชนะใจแต่ทีมงาน แต่ยังครองใจชาวเมืองเลสเตอร์และชาวตะวันตกทั่วโลกด้วยวิธีคิดและวิธีการปกครองแบบชาวตะวันออก แม้ว่าแม่นํ้า ท้องฟ้า และถนนของทั้งไทยและเลสเตอร์จะไม่ได้ผูกโยงในแง่ของภูมิศาสตร์ แต่สิ่งที่เชื่อมโยงและสร้างการยอมรับจนเป็นที่ประจักษ์คือ นํ้าใจ เพราะการเรียนรู้ที่จะให้ มีผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่เสมอ แม้วันนี้อาจไม่มีช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้ลุยต่อ แต่ตำนานที่สร้างไว้ มีความหมายจนสามารถก้าวข้าม 90 นาทีของการแข่งขันไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ จิ้งจอกสยามผู้สร้างชื่อให้กับประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ “วิชัย ศรีวัฒนประภา”
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับที่ 3,415 (864) วันที่ 4 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
“ถ้าคนต่างชาติรู้จักประเทศไทย มาประเทศไทยก็เจอ คิง เพาเวอร์ เอง” ถ้อยคำของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เคยอธิบายเหตุผลของการซื้อบอร์ดโฆษณาที่ไม่ได้เขียนว่า King Power แต่เขียนคำว่า Thailand ให้กับบุตรชาย - คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ความคิดที่เหนือกรอบแต่ให้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่ายิ่งต่อแผ่นดินเกิดที่มีชื่อว่า “ประเทศไทย”
ตลอดห้วงเวลา 3 ทศวรรษจากช่วงชีวิต 60 ปีของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ในการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี
คิงเพาเวอร์ และการเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ หรือเป็นที่รู้จักกันในฉายา จิ้งจอกสยาม บุรุษผู้นี้ไม่ได้มุ่งหวังแต่ผลกำไรแต่ยังนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยไปสู่ต่างแดน ทั้งในแง่ของการให้โอกาสกับเยาวชนไทย และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนจนได้รับการขนานนามให้เรื่องราวการต่อสู้ของคุณวิชัย เข้มข้น ครบรส และเหนือปกติมนุษย์ราวกับเทพนิยาย ด้วยการสร้างฝันที่ไม่อาจเป็นไปได้ให้เป็นจริง ด้วยการทำให้จิ้งจอกสีนํ้าเงินผงาดในสนามอย่างสง่างาม ด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของฟุตบอลเมืองผู้ดีอย่าง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
นอกจากนี้สิ่งที่คุณวิชัยสร้างความแตกต่าง จนทำให้เลสเตอร์กลายเป็นทีมที่มีผลประกอบการด้านนักเตะที่ดี คือ ศิลปะการต่อรอง พวกเขาทำได้อย่างชาญฉลาด เลือกซื้อนักเตะผ่านการใช้ข้อมูลสถิติ ตัวเลข มาวิเคราะห์ จนทำให้คว้าตัวนักเตะดี คุณภาพสูง ราคาประหยัดเข้ามายกระดับทีม เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ, เอ็นโกโล ก็องเต หรือแม้กระทั่งโค้ชที่อยู่ในช่วงขาลงอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรีนอกจากนั้นบุรุษผู้นี้ยังเลือกที่จะมอบโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจด้วยการตั้งเป้าหมายให้ทุกคนพร้อมก้าวไปด้วยกัน ดังเช่นบทความตอนหนึ่งของ แคสเปอร์ ชไมเคิล เล่าว่า “ตอนที่ท่านเซ็นสัญญาผมมาในปี 2011 ท่านบอกผมว่าเราจะไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ในอีก 6 ปีข้างหน้า และเราจะทำเรื่องยิ่งใหญ่ด้วยกัน”
อีกหนึ่งจุดเด่นในแง่ของการบริหารของคุณวิชัย คือ “การสร้างคำว่าทีมภายใต้การอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว” ให้เกิดภายในสโมสร ด้วยการแบ่งตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละบุคคลให้ชัดเจน คอยวางแผนและดูภาพรวม เปิดโอกาสให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ที่สำคัญให้กำลังใจ พร้อมสนับสนุนทุกคนและผู้คนโดยรอบ ไม่ได้อยู่แต่บนหอคอย แต่ยังลงมาพบกับโค้ช นักเตะและม้านั่งสำรองอย่างเป็นกันเอง แตกต่างจากเจ้าของสโมสรรายอื่นทั่วไป ที่จะลงมาพบโค้ชกับนักเตะก็ต่อเมื่อทีมมีปัญหาและกดดันเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น ทำให้บรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลในทุกครั้งทุกคนมีความสุข และภาพรวมของสโมสรแห่งนี้ดูเป็นเอกภาพ และอีกสัจธรรมที่สัมผัสได้ ไม่ว่าสโมสรจะรํ่ารวยเพียงใด หากคุณไม่สามารถสร้างความเป็นหนึ่งดุจดั่งครอบครัวได้ การขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จก็จะใช้เวลานานหรืออาจไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
“การให้” แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของผู้ชายคนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะการให้ไม่ได้ใช้ระยะเวลาเพียง 90 นาทีแล้วเลิกเหมือนจบการแข่งขัน แต่การให้คือการสร้างสุขให้กับตัวเองก่อนที่จะส่งต่อให้กับทุกคน โดยมุมมองหรือภาพใหญ่ที่กลายเป็นภาพจำคือ การจัดทำโครงการ Fox Hunt โดยคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถไปฝึกหัดทักษะพื้นฐานฟุตบอลที่สโมสรฯ เพื่อบ่มเพาะเยาวชนให้กลายเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพและค้าแข้งที่ต่างแดน ทั้งนี้ยังสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อมิติกีฬาของประเทศ อาทิ สร้างสนามฟุตบอล ส่งต่ออุปกรณ์กีฬาอย่างลูกฟุตบอลในโครงการแจกลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก แก่เยาวชนทั่วประเทศไทย เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นยังบริจาคเงิน
2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 102 ล้านบาท) เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลเด็กในเลสเตอร์ จากโครงการระดมทุน 30 ล้านปอนด์เพื่อยกระดับโรงพยาบาล พร้อมมอบทุนการศึกษาให้มหาวิทยาลัยเลสเตอร์อีกด้วย
การจากลาที่ยังอยู่ในความทรงจำ ไม่ถือว่าเลือนหาย แต่ยังมีลมหายใจที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคน การนำพาประเทศไทยไปสู่สากลด้วยแนวคิดและทัศนคติที่มุ่งมั่น ทำให้ไทยในวันนี้ได้รับการยอมรับและเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ มุมคิดที่นอบน้อม การแสดงความเคารพและให้เกียรติทุกคน รวมทั้งให้ความ สำคัญกับการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยการซื้อใจในแนวคิด “ลูกน้องต้องมาก่อน” นั้น ไม่ได้แค่ชนะใจแต่ทีมงาน แต่ยังครองใจชาวเมืองเลสเตอร์และชาวตะวันตกทั่วโลกด้วยวิธีคิดและวิธีการปกครองแบบชาวตะวันออก แม้ว่าแม่นํ้า ท้องฟ้า และถนนของทั้งไทยและเลสเตอร์จะไม่ได้ผูกโยงในแง่ของภูมิศาสตร์ แต่สิ่งที่เชื่อมโยงและสร้างการยอมรับจนเป็นที่ประจักษ์คือ นํ้าใจ เพราะการเรียนรู้ที่จะให้ มีผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่เสมอ แม้วันนี้อาจไม่มีช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้ลุยต่อ แต่ตำนานที่สร้างไว้ มีความหมายจนสามารถก้าวข้าม 90 นาทีของการแข่งขันไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ จิ้งจอกสยามผู้สร้างชื่อให้กับประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ “วิชัย ศรีวัฒนประภา”
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับที่ 3,415 (864) วันที่ 4 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
