หุ้นค้าปลีกกําไรหด5% ลุ้นรัฐปลุกกําลังซื้อQ3

20 ส.ค. 2561 | 05:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กลุ่มค้าปลีกไตรมาส 2/61 กำไรหด 5.2% หลัง BEAUTY,  KAMART และ MAKRO ฉุดรายได้วูบ "โบรก"แนะจับตาไตรมาส 3 คาดรัฐออกมาตรการช่วยเหลือรากหญ้า ดันสถานการณ์ดีขึ้

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2561 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่มค้าปลีก จำนวน 23 บริษัท มีกำไรรวมอยู่ที่ 12,567 ล้านบาท ลดลง 701 ล้านบาท หรือประมาณ 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรที่หดตัวของบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ที่มีกำไร 256.35 ล้านบาท ลดลง 16.83 ล้านบาท หรือ 6.16% บมจ.คาร์มาร์ท (KAMART) มีกำไร 41.54 ล้านบาท ลดลง 20.40 ล้านบาท หรือ 32.94% และบมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) กำไร 1,113 ล้านบาท ลดลง 118 ล้านบาท หรือ 11.8% kamart

ทั้งนี้ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) มีกำไรปรับลดลง เป็นผลจากรายได้รวมไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 857.52 ล้านบาท ลดลง 29.86 ล้านบาท หรือ 3.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินค้าที่ได้รับความนิยมบางตัวยอดขายน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายรวมลดลงตาม รวมถึงผลกระทบเรื่องของ อย. จากการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายของบริษัทอื่นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2561 ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัด
ระวังในการจับจ่ายใช้สอยเครื่องสำอางมากขึ้น shop_BEAUTY

ขณะที่ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ได้แรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าอาหารสด ค่าใช้จ่ายก่อนการดําเนินการจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ยอดขายของสาขาแม็คโครในประเทศกัมพูชาที่เปิดดําเนินการเมื่อเดือนธันวาคม 2560 และยอดขายของกลุ่มธุรกิจฟูดเซอร์วิส ทั้งนี้ในไตรมาสนี้ บริษัทได้เปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ซึ่งเป็นสาขารูปแบบแม็คโคร ฟูดเซอร์วิส โดยสิ้นไตรมาส 2 มีจํานวนสาขาทั่วประเทศ
จำนวน 126 สาขา  a copy

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำไรบจ.ในกลุ่มค้าปลีกไตรมาส 2 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท ลดลงประมาณ 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มนี้จะมีกำไรเพิ่มขึ้น เช่น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) บมจ.โรบินสัน (ROBINS) บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) และบมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) แต่ถูกกดดันด้วยบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) และบมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ที่มีกำไรลดลงค่อนข้างมาก

เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ถือเป็นเรื่องปกติที่ไตรมาสแรกจะดีกว่า เพราะไตรมาส 2 มีวันหยุดค่อนข้างมาก ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรยังแผ่วลง อีกทั้งหลังประกาศงบการเงินของแต่ละบริษัท ราคาหุ้นไม่ได้ปรับขึ้นต่อ ซึ่งต้องรอดูพัฒนาการในไตรมาส 3 อีกครั้ง โดยเฉพาะมาตรการของภาครัฐ ที่คาดว่าจะออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับกลาง-ล่าง จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ ต้องจับตาสถานการณ์นํ้าท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เพราะมีผลกระทบต่อการขายแน่นอน

090861-1927

นักวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ฯ ระบุว่า กลุ่มค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จะได้รับอานิสงส์จากงบประมาณกลางปี 2561 ของรัฐบาล จำนวน 150,000 ล้านบาท จะถูกเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจำนวน 100,000 ล้านบาท จะนำไปใช้กระตุ้นการอุปโภคบริโภคระดับรากหญ้าโดยตรง คือ กองทุนหมู่บ้านฯ 20,000 ล้านบาท การพัฒนาชุมชนในต่างจังหวัด 35,000 ล้านบาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 21,000 ล้านบาท และ
ปฏิรูปภาคการเกษตร 24,000 ล้านบาท

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,393 วันที่ 19-22 สิงหาคม 2561

e-book-1-503x62