‘พาณิชย์’ จับมือ เอกชน เยอรมนี จัดงานแสดงสินค้าออร์แกนิค ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูนวัตกรรม พร้อมสินค้าที่หลากหลาย

12 ก.ค. 2561 | 12:55 น.
- 12 ก.ค. 61 - นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หรือ เกษตรอินทรีย์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์โลกสูงถึง 3.18 ล้านล้านบาท โดยไทยมีมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดภายในประเทศ 800 ล้านบาท และต่างประเทศ 1,900 ล้านบาท โดยเติบโตประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 0.07% ของตลาดโลก และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

รัฐบาลจึงมีการปรับนโยบาย และโครงสร้างระบบเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อให้เข้มแข็งพร้อมทั้ง ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งผลักดันการทำเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น เพื่อขยายตลาดให้รองรับ ยุคออร์แกนิค 3.0 อย่างต่อเนื่อง โดยใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนภาคส่วนต่างๆ และดำเนินนโยบายที่มุ่งการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำไปในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เข้ากับเศรษฐกิจยุค Thailand 4.0

ในปีนี้ไทยได้รับเลือก ให้เป็นประเทศที่ 7 ในโลก ในการจัดงานออร์แกนิค ระดับโลกฯ ต่อจากประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เพราะเล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทย ทั้งการเติบโตในด้านการผลิต และการตลาดด้านออร์แกนิคในเอเชีย กระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ บริษัท นูเรมเบิร์ก เมสเซ่ จำกัด (NM) ประเทศเยอรมนี ผู้จัดงาน BIOFACH ซึ่งเป็นงานแสดง และเจรจาธุรกิจอินทรีย์ระดับโลกในการนำงานแสดงสินค้าอินทรีย์ระดับโลกมาจัดที่ประเทศไทย ภายใต้ชื่อใหม่ คือ งาน "BIOFACH Southeast Asia 2018 และ Natural Expo Southeast Asia 2018" งานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์และธรรมชาติที่ครบวงจร และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแนวคิด Southeast Asia: Home of Organic” บนพื้นที่ 9,500 ตร.ม. ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าเดิมถึง 2 เท่า โดยมีบริษัทชั้นนำในวงการอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์เข้าร่วมงานถึง 445 บูธ

ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค. 2561 โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 50,000 ราย และมีมูลค่าการซื้อขาย จากการจำหน่าย และเจรจาทางธุรกิจภายในงานไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%