คนทั้งโลกเฝ้าติดตามการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คน จากถํ้าหลวงขุนนํ้านางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นับแต่ช่วยออกมาได้ชุดแรก 4 คน ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 หลังจากติดอยู่ในถํ้ามา 15 วันเต็ม และร่วมลุ้นระทึกให้เสร็จสิ้นโดยเรียบร้อย
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ภัยจากนานาชาติ เดินทางมาร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ ในภารกิจที่โหดหินและมีข้อจำกัดบีบคั้นรอบด้าน เพราะการเข้าค้นหาและกู้ภัย ต้องดั้นด้นเข้าไปในถํ้าลึกมีนํ้าท่วมหลายกิโลเมตร ผ่านอุโมงค์แคบ ดังคำเปรียบเปรยที่ว่าเป็นเอเวอเรสต์แห่งถํ้า
การกู้ภัยครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน (ศอร.) ที่มีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ที่จัดตั้งขึ้นอย่างฉุกละหุกเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
การจะประสบผลดังกล่าวได้ต้องมีการบริหารจัดการภารกิจอันหลากหลายประกอบกัน นอกจากทีม นักดำนํ้าที่เป็นกองหน้าบุกเบิกเส้นทางจนถึงตัวผู้ประสบภัยจนช่วยนําตัวออกมา ยังต้องมีทีมจัดการเรื่องการพร่องนํ้าในถํ้า ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร อุปกรณ์กู้ภัย หน่วยขุดเจาะสำรวจโพรงถํ้าเพื่อเป็นทางเลือกสำรอง ทีมบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยขนส่ง ตลอดจนถึงการจัดระเบียบสื่อสารมวลชน
ภาวะผู้นำและการมีหน่วยงานบริหารจัดการที่ชัดเจนทำให้สามารถบริหารจัดการภารกิจที่ยุ่งยากและซับซ้อนนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้
กุญแจสำคัญอีกประการคือ การเปิดใจรับข้อเสนอแนะ และมอบหมายงานให้แก่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและถนัดเฉพาะด้าน ทำให้สามารถผสมผสานงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของภารกิจครั้งนี้ได้
ทั้งการที่ศอร.รับข้อมูลจากนักดำนํ้าสำรวจถํ้าชาวอังกฤษที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และเข้าร่วมค้นหาตั้งแต่วันแรกๆ เสนอให้ติดต่อทีมนักดำนํ้ากู้ภัยในถํ้าจากอังกฤษมาร่วมภารกิจ ได้มีการประสานงานเชิญมาช่วยเหลือซึ่งก็ได้คำตอบรับทันที จนทีมนี้ดำวางเชือกนำทางกระทั่งค้นพบ 13 นักฟุตบอลเยาวชนที่เนินนมสาวดังกล่าว
การกู้ภัยที่เป็นการผนึกกำลัง “ระดับโลก” ครั้งนี้ ยังลบล้างคำกล่าวที่ว่า คนไทยทำงานเป็นทีมไม่เป็นลงไปได้ จากผลงานอำนวยการกู้ภัยของประเทศไทยที่ถึงขั้น “ระดับโลก” เช่นกัน
|บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
|ฉบับ 3382 ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.2561