- 20 มิ.ย. 61 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐอเมริกาประกาศถอนตัวจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) โดยนางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ประกาศระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า ยูเอ็นเอสซีเป็นองค์กรที่ไม่สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนได้ เพราะเป็นองค์กรที่หน้าไหว้หลังหลอก ทำงานเพียงเพื่อรับใช้ความต้องการของตนเอง ทั้งยังดูหมิ่นสิทธิมนุษยชน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว นางเฮลีย์กล่าวหายูเอ็นเอสซีว่าเป็น “โรคอคติต่อต้านอิสราเอลชนิดเรื้อรัง” และยังประกาศว่า สหรัฐฯ กำลังทบทวนการเป็นสมาชิกของยูเอ็นเอสซี ก่อนที่จะมีการประกาศถอนตัวในครั้งนี้
นายแอนโตนิโอ กูแตเรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า “ยังอยากให้สหรัฐฯอยู่ในคณะมนตรีชุดดังกล่าวต่อไป”
เจ้าชายซาอิด ราอัด ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งชาติประชาชาติ กล่าวว่า การถอนตัวของสหรัฐฯออกจากยูเอ็นเอสซีเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ไม่ใช่ข่าวที่ทำให้ตกใจแต่อย่างใด เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในโลกในปัจจุบัน สหรัฐฯ ควรต้องเข้ามามีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ไม่ใช่ถอยหลังออกไป
ฮิวเมนไรท์วอชต์ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก ประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในครั้งนี้พร้อมระบุว่า นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นการมองทุกสิ่งเพียงมิติเดียวเท่านั้น
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า “การถอนตัวของสหรัฐฯในครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับความพยายามในการตรวจสอบและจัดการกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก”
การประกาศถอนตัวออกจากยูเอ็นเอสซีของสหรัฐฯเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดนวิจารณ์หนัก เกี่ยวกับนโยบายการแยกเด็กออกจากครอบครัวที่บริเวณชายแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโกด้วย