เคาะไม้ผล 7 จ.ภาคใต้ ปีนี้ผลผลิตดี เสี่ยงอากาศแปรปรวน

08 มิ.ย. 2561 | 06:12 น.
- 8 มิ.ย. 61 - ผลการประมาณการไม้ผลเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2 ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ปีนี้ภาพรวมผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยมังคุดและทุเรียนผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนสิงหาคม ขณะที่เงาะและลองกองผลผลิตออกสูงสุดในเดือนกันยายน ด้าน Fruit Board เตรียมยกร่างยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ภาคใต้ ปี 61-64 เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้ทั้งระบบ

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประมาณการไม้ผลเศรษฐกิจใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ครั้งที่ 2 โดยคณะทำงานสำรวจไม้ผลเศรษฐกิจภาคใต้ พบว่าไม้ผลทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ เงาะ มังคุด ทุเรียน และลองกอง ของ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 2561) ภาพรวมให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากประสบภัยแล้งในปี 2558-2559 และปี 2560  มีฝนตกช่วงกำลังจะออกดอกทำให้แตกใบอ่อนแทน และไม้ผลที่ออกดอกแล้วมีฝนตกชุกทำให้ดอกร่วง จึงได้ผลผลิตน้อย

แต่ปีนี้ไม้ผลสภาพลำต้นสมบูรณ์พร้อมต่อการออกดอกติดผล ประกอบกับสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยตั้งแต่ต้นปีเป็นเหตุให้ไม้ผลออกดอกติดผลมากกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก โดย มังคุด มีเนื้อที่ให้ผล 50,276 ไร่ ปริมาณผลผลิต 27,655 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 550 กก. ทุเรียน มีเนื้อที่ให้ผล 102,286 ไร่ ปริมาณผลผลิต 66,294 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 648 กก. เงาะ มีเนื้อที่ให้ผล 41,570 ไร่ ปริมาณผลผลิต 22,596 ตัน และผลผลิตต่อไร่ 544 กก. และ ลองกอง มีเนื้อที่ให้ผล 137,416 ไร่ ปริมาณผลผลิต 43,214 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 314 กิโลกรัม

สำหรับช่วงระยะเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาด คาดว่า มังคุดและทุเรียนจะเริ่มทยอยออกผลผลิตมากเดือนกรกฎาคม และให้ผลผลิตสูงสุดในช่วงเดือนสิงหาคม โดยมังคุด ให้ผลผลิต 8,486 ตัน (31% ของผลผลิตทั้งหมด) และทุเรียน 36,466 ตัน (55% ของผลผลิตทั้งหมด) ในขณะที่เงาะและลองกองจะเริ่มทยอยออกผลผลิตมากเดือนสิงหาคม และจะให้ผลผลิตสูงสุดในช่วงเดือนกันยายน โดยเงาะให้ผลผลิตปริมาณ 10,515 ตัน (47% ของผลผลิตทั้งหมด) และลองกอง 15,787 ตัน (37% ของผลผลิตทั้งหมด)

อย่างไรก็ตาม สศท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำหนดลงพื้นที่สำรวจในเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมวางแผนบริหารจัดการไม้ผลร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพราะหากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนอาจทำให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อีก

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงเน้นย้ำเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเพื่อติดตามสถานการณ์ไม้ผลในแหล่งผลิตที่สำคัญของแต่ละจังหวัด เพื่อเตรียมวางแผนบริหารจัดการไม้ผลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ยังได้เตรียมยกร่างยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ภาคใต้ ปี 2561-2564 เพื่อ