ไทยส่ง "ข้าว กข21" แก้เกมเวียดนาม ชิงคืนตลาดจีน

06 มิ.ย. 2561 | 10:44 น.
060661-1729 appP1-Scoop-3187

เวียดนาม-กัมพูชา รุกหนัก! ส่งข้าว 5 สายพันธุ์ใหม่ ตีตลาดข้าวไทย ... ผู้ส่งออกพลิกเกมเร่งพัฒนาพันธุ์ กข21 แย่งแชร์ตลาดจีนคืนจากเวียดนาม จูงใจชาวนาประกาศรับซื้อสูงกว่าตลาด 500 บาท/ตัน

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
 ว่า ปัจจุบัน คู่แข่งในการส่งออกข้าวไทย พัฒนาและส่งเสริมชาวนาปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ ส่วนใหญ่เป็นข้าวนิ่มที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน โดยของเวียดนาม คือ ข้าวขาวพันธุ์ ST-21 และพันธุ์ OM-5451 ราคาขาย (เอฟโอบี) ในตลาดโลกเฉลี่ยที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน , ข้าวหอมพันธุ์ KDM ราคา 558-562 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ส่วนกัมพูชามีข้าวหอมพันธุ์ Phka Rumduol / Phka Malis ราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และพันธุ์ Sen Kra Ob ราคาประมาณ 960 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน


apprice

"ข้าวขาว 5451 ของเวียดนาม นุ่มกว่าข้าวขาวทั่วไป แต่น้อยกว่าข้าวหอมมะลิของไทย เป็นโอกาสของเวียดนาม เพราะมีราคาเฉลี่ย 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และข้าวหอมเวียดนามเฉลี่ยที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันเท่านั้น ขณะที่ ข้าวหอมมะลิไทยในเวลานี้มีราคาสูงกว่า 1,200 เหรียญต่อตัน ทำให้ข้าวขาวเวียดนามตีตลาดในจีน มาเลเซีย ฮ่องกง และข้าวหอมส่งออกไปมาเลเซียและฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น"

โดยในปี 2560 ตัวเลขส่งออกข้าวของเวียดนามอย่างเป็นทางการ อยู่ที่ 6.4 ล้านตัน ในจำนวนนี้ส่งออกไปจีน 4 ล้านตัน (ส่วนไทยส่งออกไปจีน 1.19 ล้านตัน) ยังไม่รวมข้าวที่เวียดนามส่งไปจีนตามพรมแดน ซึ่งไม่ปรากฏตัวเลขอย่างเป็นทางการ คาดจะมีอีก 1.5-2 ล้านตัน หรือส่งออกได้จริงกว่า 8 ล้านตัน ส่วนกัมพูชา (ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 8 ของโลก ในปี 2560 ปริมาณ 1.2 ล้านตัน) ได้มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ และมีแนวโน้มขยายตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น

 

[caption id="attachment_287644" align="aligncenter" width="400"] ©vietnamonline.com ©vietnamonline.com[/caption]

ไทยไม่อาจอยู่นิ่งได้ ล่าสุด อยู่ระหว่างพัฒนาข้าวขาวพื้นนิ่ม 3 สายพันธุ์ใหม่ มาแข่ง ได้แก่ พันธุ์ กข21 , พันธุ์ กข77 และข้าวพันธุ์พิษณุโลก 80 ซึ่งจะเน้น 2 พันธุ์แรกที่มีศักยภาพก่อน โดยข้าวพันธุ์ กข21 ให้ผลผลิตสูงประมาณ 700 กิโลกรัม (กก.) ต่อไร่ ทางกรมการข้าวได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนปลูกช่วงนาปรังและนาปี ประมาณ 3 หมื่นไร่ คาดจะให้ผลผลิตล็อตแรกปีนี้ประมาณ 2.1 หมื่นตัน โดยสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะรับซื้อในราคาสูงกว่าราคาตลาด เช่น สมมติราคาข้าวเปลือกเจ้านาปีทั่วไปอยู่ที่ 8,000 บาท ทางสมาคมจะรับซื้อ 8,500 บาท หรือเพิ่มให้อีก 500 บาท เพื่อจูงใจในการเพิ่มพื้นที่ปลูกและทำตลาดเชิงพาณิชย์ต่อไป

ส่วนข้าว กข77 อยู่ในช่วงการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว หลังจากนั้นจะมีการขยายพันธุ์และเพาะปลูกที่สุพรรณบุรี คาดจะได้ผลผลิตช่วงปลายปีนี้ โดยระยะแรก สมาคมจะรับซื้อข้าวสารพันธุ์ กข77 จำนวน 2,500 ตัน ในราคาข้าวสารที่สูงกว่าราคาตลาด 2 บาท/กก.


apprice (1)

"ข้าวพื้นนิ่มของเวียดนามขายที่จีน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่ ข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากเราขายข้าว กข21 ได้เพิ่มจากข้าวขาว 5% อีก 30-40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ก็จะแข่งกับข้าวของเวียดนามได้สบาย โดยจีนนำเข้าข้าวปีละ 6-7 ล้านตัน สัดส่วนเกิน 60% เป็นการนำเข้าข้าวขาว จะเห็นว่ามีโอกาสทางการตลาดอีกมาก ซึ่งเมื่อชาวนาหันมาปลูกข้าว กข21 กันมากขึ้น การปลูกข้าวเปลือกเจ้าทั่วไปก็จะลดพื้นที่ลง ทำให้ราคาข้าวขาวทั่วไปมีโอกาสปรับขึ้นได้ตาม"

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมมีแผนจะผลักดันให้ชาวนาไทยปลูกข้าวพันธุ์พื้นนิ่มมากขึ้น จากเวลานี้ ไทยกำลังเสียเปรียบเวียดนามและเมียนมา โดยเฉพาะเวียดนามที่ส่วนใหญ่ส่งออกข้าวพื้นนิ่มไปยังตลาดจีน ขณะที่ ตลาดฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็มีความต้องการข้าวพื้นนิ่มเช่นกัน


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,370 วันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2561 หน้า 01+15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นบข. ไฟเขียวขายข้าวสต๊อกรัฐ 4.37 หมื่นตัน
เกษตรเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโครงการส่งเสริมนาแปลงใหญ่


e-book-1-503x62-7