กิฟฟารีนรุกโค้งท้าย ปั๊มยอด 5,000 ล้าน

20 พ.ย. 2560 | 23:00 น.
กิฟฟารีน กระตุ้นตลาดขายตรงโค้งท้ายปี อัดงบ 40 ล้าน จัดแคมเปญ พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณามาสก์หน้า ดึง “เป๊ก-ผลิตโชค” เป็นพรีเซนเตอร์คาดยอดขายสิ้นปี 5,000 ล้าน

พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ได้ใช้งบการตลาด40ล้านบาทเพื่อจัดทำแคมเปญกับสมาชิกและกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แบ่งเป็นการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ 40%และในสื่อออฟไลน์อีก 60% ซึ่งคาดว่าแคมเปญการตลาดดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ปีนี้มียอดขาย 5,000 ล้านบาท เติบโต 1-2% จากปีที่ผ่านมา โดยช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 4,000 ล้านบาท

app-gif “ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อโดยรวมของประเทศ ยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติดีนัก ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ของประเทศ ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายประเมินว่าตลาดขายตรงจะกลับมาคึกคักมากขึ้น รวมถึงธุรกิจค้าปลีกทั่วไปของไทยด้วย และบริษัทเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของอารมณ์ผู้บริโภคที่ดีขึ้น ซึ่งอารมณ์ที่ดีขึ้นจะส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้า”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยว การสัมมนาพิเศษการจัดงานฉลองครบรอบ 21 ปี โดยไม่ได้มีการสื่อสารภายนอกองค์กรมากนัก ซึ่งช่วงโค้งท้ายของปีนี้จึงได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาผลิตภัณฑ์มาสก์หน้า พร้อมกับใช้เป๊ก-ผลิตโชคมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยมุ่งเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมายอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของกิฟฟารีนเติบโตมากถึง 300%

ในส่วนภาพรวมของธุรกิจขายตรงปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 1-2% จากปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการตลาดกว่า9.5หมื่นล้านบาท ขณะที่แนวโน้มในปี 2561เชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนกับช่วง2 ปีก่อนหน้านี้โดยน่าจะมีอัตราการเติบโต 3-5% จากปีนี้ ส่วนบริษัทเองคาดหวังว่าจะกลับมาสร้างการเติบโตได้ในอัตรา5%ซึ่งจะมีแผนการตลาดออกมากระตุ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับฉลองครบรอบ 22 ปี และการออกสินค้าใหม่อีกกว่า 20 รายการด้วย

โดยปีหน้าตั้งเป้าหมายยอดขายจากออนไลน์เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากคาดการณ์ปี 2560 ที่ 10% เป็น 20% ในปีหน้า พร้อมกันนี้ บริษัทจะเน้นทำตลาดกลุ่มอาหารเสริม โดยจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 2-3 รายการ เพื่อผลักดันให้มีสัดส่วนยอดขาย 35% จากปัจจุบันยอดขายรวมแบ่งเป็นกลุ่มอาหารเสริม 30% สกินแคร์และเครื่องสำอาง 40% เครื่องใช้ภายในบ้าน 20% และอื่นๆ 10%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว