ฐานโซไซตี : ปรับครม.เรียกความเชื่อมั่น “ลุงตู่” ลุ้นคัมแบ็คนายกฯ

ต้องชื่นชม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ที่แสดง “สปิริต” ลาออกจากเก้าอี้รมว.แรงงาน หลัง วรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ถูกหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) งัดคำสั่งตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว แต่ยังแฝงอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2560 ปลดออกจากตำแหน่ง แล้วโยกไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้ อนุรักษ์ ทศรัตน์ เข้าดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางานแทน ขณะที่ทีมงานไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ผู้ช่วยรมว.แรงงาน พล.ท.ธนิต พิพิธวนิชการ เลขานุการรมว.แรงงาน และอารักษ์ พรหมณี ที่ปรึกษารมว.แรงงาน ก็ยื่นลาออกพร้อมกันไปด้วย
การไขก๊อกของ พล.อ.ศิริชัย  นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งปลดอธิบดีกรมการจัดหางาน ซึ่งเป็นลูกน้องของตัวเอง และการที่ลูกน้องถูกปลด ก็ย่อมแสดงว่ามีความผิดหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในบางเรื่องบางราว จนไม่เป็นที่พอใจของผู้นำรัฐบาล ตัวของ พล.อ.ศิริชัย เอง ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ต้องรับผิดชอบด้วย จึงอาจเป็นเหตุผลประการหนึ่งให้ต้องลาออกดังกล่าว และการลาออกของ พล.อ.ศิริชัย ยังมองได้ด้วยว่า “ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง” ไม่เหมือนกับหลายๆ คนที่เวลาได้เป็น “รัฐมนตรี” แล้ว เกาะเก้าอี้แน่นไม่อยากออกง่ายๆ แถมมักวิ่งเต้นรักษาเก้าอี้ตัวเองไว้อีกต่างหาก

เอาล่ะ เมื่อ “เก้าอี้รมว.แรงงาน” ว่างลง ก็เป็นโอกาสอันดีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล ที่จะเฟ้นหาตัวบุคคลมา “เสียบ” แทน และคงจะฉวยโอกาสนี้ดำเนินการปรับเปลี่ยน “รัฐมนตรี” ในบางกระทรวงบางตำแหน่งไปพร้อมกัน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล ในการที่จะก้าวเดินต่อไปในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกราวปีเศษ ก่อนมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่เข้ามารับช่วงต่อ
ถามว่าทำไมต้อง “เรียกความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล” ด้วย ก็ขอตอบว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ “คัมแบ็ก” ในเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย ก็ต้องสร้างผลงาน แสดงฝีไม้ลายมือในระยะเวลาที่เหลืออยู่ให้ “เข้าตา” และเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนเข้าไว้ เพราะหลังเลือกตั้งแล้วหากพรรคการเมืองไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลและหาคนเป็นผู้นำรัฐบาลได้ ก็น่าจะเป็นโอกาสของ “ลุงตู่” ในฐานะคนนอกที่จะเข้ามากุมบังเหียนในการบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่งได้ เนื่องด้วย “ปัจจัย” หลายๆ อย่างถูกกำหนดและวางล็อกไว้แล้ว
ส่วนเรื่องการ “ปลดล็อก” ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ หลังจาก พ.ร.บ.พรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ และมีกฎกติกาล็อกไว้ให้ต้องทำตามนั้น ดูท่า “นักการเมือง” จะต้อง “ร้องเพลงรอ” ไปอีกนาน เพราะล่าสุดทั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ออกมาสยบกระแสเรียกร้องของนักการเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่า “ขณะนี้ยังไม่มีความสงบเรียบร้อย หรือมีความเห็นไปในทางเดียวกัน ยังพบว่ามีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะต่างๆ ทั้งการโจมตี บิดเบือน”
ขณะที่ สมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมาสำทับว่า ยังเหลือเวลาอีก 1 ปี 1 เดือนกว่าจะถึงเวลาเลือกตั้ง พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมตัวแน่นอน และเรื่องการปลดล็อกพรรคการเมืองนั้นต้องรอเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ “กกต.” ก็สามารถขยายเวลาให้พรรคการเมืองตามจำนวนวันเวลาที่หายไปได้ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาข้อกฎหมายที่พรรคการเมืองจะเตรียมตัวไม่ทัน และคาดว่าการปลดล็อกพรรคการเมืองอาจจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2561 ปิดท้ายที่ วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เวลา  05.30 น. วิเชียร จันทรโณทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ วิโรจน์ คัมภีระ ประธานชมรม CPF Running Club บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดงานเดิน-วิ่งเพื่อการกุศล “ซีพีเอฟ ตอบแทนคุณแผ่นดิน เดิน-วิ่ง ถิ่นครูบา” พร้อมนำชาวลำพูนร่วมออกกำลังกาย พร้อมนำรายได้สมทบทุนเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน ณ ศูนย์ท่องเที่ยว อ.เมือง จ.ลำพูน

............................
คอลัมน์ : ฐานโซไซตี/ หน้า 4 หนังสือพิมน์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3311 ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย.2560