ทัตตชีโวอ่วม อัยการชี้ นำเงินธรรมกาย ไปเล่นหุ้น 1,300 ล้าน ทำให้เสียหายหนัก เร่งสอบนอมินี ซุกในชื่อ บุคคลและมูลนิธิ
สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งกรมแผนที่ เข้าตรวจสอบที่ดินรางวัดและข้อเท็จจริงต่างๆในพื้นที่ที่ปลูกสร้างอาคารบุญรักษา เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของใคร หากเป็นของน.ส.อลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวของนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จริง ก็จะต้องดำเนินการออกหมายเรียก เพื่อให้มาอธิบายเรื่องการอนุญาตให้วัดพระธรรมกายใช้สถานที่ เหมือนกรณีของน.ส.ศรวรรณ ศิริสุทรินทร์ หรือ ป้าเชง เจ้าของตลาดป้าเชง คลองหลวง
สำหรับประเด็นที่พระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาส มีการนำเงินจากบัญชีของวัดพระธรรมกาย ที่ได้จากสหกรณ์ฯคลองจั่น ไปซื้อหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯพบคดีเพิ่มเติมอีก 4 คดี หลังตรวจสอบเส้นทางการเงินและประสานไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับคำตอบว่า จะเข้าให้ปากคำในปลายเดือนนี้
ทั้งนี้ ในระหว่างปี 53 – 59 ผู้บริหารวัดพระธรรมกายได้โอนเงินให้เจ้าหน้าที่การเงินกลุ่มหนึ่งนำไปเล่นหุ้นในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนั้นยังถูกแบ่งไปเล่นหุ้นในกลุ่มของเสี่ย ส. และหลาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่วัดนำเงินไปเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านทางโบรกเกอร์ 2-3 แห่ง วงเงินรวมกว่า 1,300 ล้านบาท จนสร้างความเสียหายให้กับการเงินของวัดพระธรรมกายกว่า 1,000 ล้านบาท พฤติกรรมการซื้อขายหุ้นมีความเกี่ยวพันกับพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือ เผด็จ ทัตตชีโว) และพระธัมมชโย ถือเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เรื่องการเก็บรักษาเงินของวัด ในขณะอยู่ในตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาส
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดนี้ทางกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว และเป็นฐานข้อมูลที่นำไปสู่การปลดสมณศักดิ์พระทัตตชีโว
พ.ต.อ.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินและธนาคาร ประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับการฟอกเงินของวัดพระธรรมกายว่า การประชุมร่วมระหว่างดีเอสไอและอัยการ เพื่อวางแนวทางการสอบสวนคดีฟอกเงิน นำเงินวัดไปซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และคดีเกี่ยวกับทรัพย์มูลนิธิวัดพระธรรมกายโดยมีหลักฐานความชัดเจนว่าพระทัตตชีโว นำเงินจากบัญชีของวัดไปซื้อหุ้น มีความผิดตามมาตรา 157
สอดคล้องกับนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษสำนักการสอบสวน 3 เปิดเผยว่า เงินที่ถูกโอนหรือโยกไปเล่นหุ้นทั้งหมดที่ตรวจพบมีกว่า 1,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นพบว่า มีบริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการซื้อขายหุ้นให้ และมีพระที่ดูแลเรื่องเงินของวัดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหลายรูป นายขจรศักดิ์ยังยอมรับอีกว่า เงินวัดพระธรรมกายที่มีการนำไปเล่นหุ้น มีพ่อมดการเงินที่เป็นเซียนหุ้น เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปตรวจสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย เบื้องต้นจะออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิธรรมกาย 8-9 คน ที่ก่อนหน้านี้เคยออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่มาพบ วันนี้จึงจำเป็นต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งในหมายเรียกนี้ รวมถึง พระธัมมชโย