เนสท์เล่รุกตลาดน้ำดื่มเอเชีย

02 มี.ค. 2560 | 07:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เนสท์เล่เปิดแผนรุกตลาดเอเชีย ผุดศูนย์ผลิตน้ำดื่มรับตลาดขยายตัว พร้อมทุ่ม 1,800 ล้านบาท เปิดโรงงานใหม่ที่สุราษฎร์ธานี ปูพรมรุกตลาดภาคใต้

นายมัททิอัส รีห์เล ผู้จัดการระดับภูมิภาคเอเชีย กลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ เปิดเผยว่า จากแนวโน้มผู้บริโภคในทวีปเอเชียที่มีความต้องการในการดื่มผลิตภัณฑ์น้ำบรรจุขวดเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม รวมถึงไทยนั้น ทำให้บริษัทเพิ่มนโยบายการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม โดยให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจน้ำดื่มในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการมีศูนย์การผลิตน้ำดื่มในแต่ละประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย เกาหลี เวียดนาม และเน้นการทำตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

ส่วนในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาบริษัทใช้งบลงทุน 1,800 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มแห่งที่ 2 ใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี บนพื้นที่ 1.7 แสนไร่ ประกอบไปด้วยส่วนของโรงงาน คลังสินค้า และอาคารสำนักงาน ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500 ล้านขวดต่อปี เพื่อใช้ในการรองรับความต้องการในการบริโภคน้ำดื่มแก่ประชาชน 10 ล้านคนใน 14 จังหวัดเขตภาคใต้

ปัจจัยหลักที่บริษัทเลือกลงทุนโรงงานแห่งใหม่ในเขตภาคใต้ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1. เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดน้ำดื่มในเขตภาคใต้ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 2. แบรนด์เนสท์เล่ เพียวไลฟ์มีความแข็งแกร่งในเขตภาคใต้อยู่แล้ว การเข้ามาลงทุนดังกล่าวถือเป็นการขยายตลาดเพื่อรองรับความต้องการในตัวแบรนด์เพิ่มเติม และ 3. สุราษฎร์ธานีมีแหล่งน้ำที่มีคุณภาพ สามารถนำมาผลิตน้ำดื่มได้ตามมาตรฐานของบริษัท

"โรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์แห่งแรกอยู่ที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งลงทุนก่อสร้างตั้งแต่ปี 2535 ส่วนโรงงานแห่งใหม่นี้ มีจุดเด่นคือการใช้เทคโนโลยีการผลิต vsep ที่ลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิต ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 74.8% รวมไปถึงการลดขั้นตอนของการจัดส่งในเขตภาคใต้ได้ 3 ล้านกิโลเมตร ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายด้านการเติบโตแบบยั่งยืนควบคู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ขณะที่การลงทุนใหม่ๆในประเทศไทยคงต้องมีการศึกษาความต้องการ และมีการพิจารณาความสำเร็จจากโรงงานแห่งนี้เสียก่อน จึงจะมีการคิดแผนงานต่อไป"

ขณะที่ปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้การทำตลาดสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำดื่มให้ประสบความสำเร็จในระดับโลก ประกอบไปด้วย การกระจายสินค้าที่เข้าถึงและเพียงพอกับความต้องการ ราคาที่เหมาะสม คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นจะมีเรื่องของแบรนด์ คุณภาพ มาเป็นอีกส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดน้ำดื่มในปัจจุบันมีมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยแบรนด์เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในปัจจุบันที่ 16% ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นหลักในตลาดน้ำดื่มเมืองไทยปัจจุบัน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตมากกว่าตลาด โดยมีเป้าหมายในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดในอนาคต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,240 วันที่ 2 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2560