Thaidax.com บล็อกเชนเทรดหุ้นไร้คนกลาง

29 ม.ค. 2560 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ม.ค. 2560 | 21:13 น.
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหุ้นไทย ณ 26 มกราคม 2560 อยู่ที่ 15.91 ล้านล้านบาท มากกว่าจีดีพีประเทศที่อยู่ที่ 13.90 ล้านล้านบาท จำนวนหุ้น 565 บริษัท และมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในระดับ 4-5 หมื่นล้านบาทการทำรายการซื้อหรือขายหุ้นผ่านตัวกลาง ทั้งโบรกเกอร์ ผู้ดูหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ และอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุน
ด้วยเหตุนี้ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิตอล แนวคิดที่ต้องการให้นักลงทุนสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นกันเองโดยไม่ผ่านคนกลาง ได้ถูกนำเสนอโดยกลุ่ม Private Chain ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ในโครงการ Fintech Challenge ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)

“จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” กรรมการผู้จัดการบริษัทcoins.co.th หัวหน้าทีม Private Chain ที่คลุกวงในตลาดหุ้นมากว่า 3 ปี เห็นช่องว่างตรงนี้ จึงชักชวนเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งทำงานที่ Thomson Reuters มารวมทีม Private Chain และเสนอไอเดียพัฒนาการสร้างตลาดรองสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ

“จิรายุส”บอกถึงแรงบันดาลใจในการรวมทีมครั้งนี้ว่า “ ต้องการแก้ปัญหาของทั้ง 2 ฝั่ง คือ เจ้าของกิจการ ร้านค้า หรือบริษัทที่ต้องการระดมเงินทุน และนักลงทุนที่สนใจจะเป็นหุ้นส่วนในแต่ละกิจการร้านค้าได้แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนมูลค่าได้ทันทีโดยไม่ผ่านตัวกลาง

ด้วยเหตุที่ว่าไทยยังไม่มีตลาดที่พัฒนามากพอ คือมีเพียงตลาดหลักทรัพย์ กับตลาดหลักทรัพย์ MAI ขณะที่ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกานั้นจะมีตลาดซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ 5-6 ตลาด อาทิ NYSE, NASDAQ , ARCA , OTC OTCQX, PINKSHEETS เป็นต้น

“Private Chain” จึงเสนอ www.thaidax.com เป็นตลาดหุ้นสำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ สามารถเข้ามาระดมทุนตรงกับนักลงทุน โดยนำเอาบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูงมาทำให้การทำงานของทั้งระบบเปลี่ยนแปลงเป็นแบบอิเลคทรอนิกส์ ที่มีจุดเด่นคือลดตัวกลางและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหุ้น”

“จิรายุส” กล่าวว่า“เราได้นำเสนอวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับกลุ่มนักธุรกิจAngels และผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการสร้างระบบจดบันทึกการซื้อขายในฐานข้อมูลแบบแชร์กัน( Shared Ledger) เพื่อใช้ฐานร่วมกันสำหรับทุกหน่วยงานโดยต้องเข้ารหัสเพื่อป้องกันข้อมูลและจดบันทึกรายการซื้อขายของหลักทรัพย์และความเป็นเจ้าของหุ้น”

ทั้งนี้ระบบการโอนหรือการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ หรือการทำธุรกรรมจะเร็วกกว่าปัจจุบัน เช่น การซื้อหรือขายหุ้นที่ไม่ต้องรอถึง 3 วันทำการ(T+3) ขณะเดียวกันด้านหน่วยงานกำกับดูแลจะมีประวัติการซื้อและขายหลักทรัพย์ที่โปร่งใสติดตามรายการได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดรายการ

“จิรายุส”ระบุอีกว่า ตลาดทุนของ privateChain ใช้บล็อกเชนเป็นหลังบ้าน การจัดการหลักทรัพย์จะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก โดยการออกหลักทรัพย์ การซื้อขายและการจัดการหลักทรัพย์นั้น จะมีผู้ดูแลหลักทรัพย์ซึ่งเป็นองค์กรหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ออกหลักทรัพย์องบริษัทในรูปของหลักทรัพย์ดิจิตอล

รวมทั้งผู้ดูแลบัญชีเงินสด ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตในการเพิ่มเงินสดเข้าไปในบัญชีเงินสดของนักลงทุนและของบริษัทที่ต้องการระดมทุน ผู้ดูแลหลักทรัพย์จะประเมินเครดิต และความเสี่ยงก่อนจะเข้ามาระดมทุนในตลาด

กระบวนการที่ระบบฐานข้อมูลให้ความสำคัญ ในเรื่อง KYC: Know Your Customer เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในด้านการมองเห็นสัดส่วนและประวัติของการเข้าถือหุ้นในบริษัทแต่แต่เริ่มต้น จึงเป็นฐานข้อมูลหลักในการลดความเสี่ยงเรื่องการฟอกเงินหรือนอมินี

“ตลาดรองของเรา สามารถบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทนในระดับที่พอใจของทั้งฝั่งผู้ระดมทุนและนักลงทุนได้ตรงจุด”

สิ่งที่คาดหวังสำหรับการเข้าร่วมในโครงการครั้งนี้ นอกจากมุ่งสร้างตลาดรองของตลาดหลักทรัพย์ไทยเพื่อเป็นอีกช่องทางและโอกาสในการระดมทุนและพัฒนาตลาดทุนไทยแล้ว ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการแชร์ข้อมูล

ขณะที่รัฐบาลเดินบนเส้นทางถูกต้องด้วยการสนับสนุนภาคธุรกิจ ภาครัฐ และประชาชนในเรื่องดิจิตอล แต่ในทางปฎิบัติกฎกติกาต้องเปลี่ยนให้ทันและเร่งผลักดันกฎหมายออกมาเพื่อส่งเสริมการสร้างตลาด และธุรกิจให้เท่าทันเทคโนโลยี

“ทีมงานของเราเชื่อมั่นว่า ภายใต้เทคโนโลยี่ใหม่ๆ เราจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจของประเทศไทยเดินไปข้างหน้า”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231
วันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2560