ทาวน์เฮาส์แรง!ผุดใหม่อื้อ พฤกษาเชื่อตลาดโต10%เล็งปีหน้าเปิด50โครงการ

11 ต.ค. 2559 | 03:00 น.
ตลาดทาวน์เฮาส์คึกคัก หลังอสังหาฯ เลี่ยงพัฒนาบ้านเดี่ยว เหตุที่ดินแพง-เศรษฐกิจชะลอตัว แถมสถานการณ์คอนโดฯยังซบ แห่เปิดเอาใจคนอยากมีบ้าน “อิสระ” ชี้ทาวน์เฮาส์ทดแทนกลุ่มบ้านเดี่ยว คาด 1-2 ปีระดับราคาตํ่ากว่า 1.5ล้านบาทสูญพันธุ์จากตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑลด้าน พฤกษา ราชาทาวน์เฮาส์ เชื่อตลาดปีนี้โต10% คาดยอดขายทะลุเป้ากว่า 2.3 หมื่นล้านแย้มแผนปี 60 บุกหนักเตรียมเปิดกว่า 50 โครงการ

[caption id="attachment_105026" align="aligncenter" width="700"] ส่วนหนึ่งของทาวน์เฮาส์ที่เปิดขายใหม่ไตรมาส 4/2559 ส่วนหนึ่งของทาวน์เฮาส์ที่เปิดขายใหม่ไตรมาส 4/2559[/caption]

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงทิศทางตลาดทาวน์เฮาส์ว่า ตลาดมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ของผู้ที่มีกำลังซื้อไม่มาก แต่อยากอยู่บ้านแนวราบไม่อยากอยู่คอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัด ประกอบกับราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่สามารถพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวได้หรือพัฒนาได้ก็มีราคาสูง ทาวน์เฮาส์จึงถูกนำมาทดแทนสินค้าในกลุ่มบ้านเดี่ยว ประกอบกับกำลังซื้อส่วนใหญ่ของตลาดอยู่ในกลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 70% ของตลาดรวม

ปัจจุบันรูปแบบของทาวน์เฮาส์มีลักษณะเปลี่ยนไป และมีหลากหลายระดับราคาขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและรูปแบบตัวอาคาร ซึ่งทาวน์เฮาส์ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล สำหรับทาวน์เฮาส์ระดับราคาประมาณ 2.5 ล้านบาทจะอยู่ในพื้นที่ชานเมืองกรุงเทพฯหรือกรุงเทพฯรอบนอก แต่ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเข้ามาระดับราคาจะอยู่ที่ประมาณกว่า 3.5 ล้านบาท ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ในเมืองระดับราคาก็จะมากกว่า 4 ล้านบาท

"เดิมทาวน์เฮาส์เป็นสินค้าของกลุ่มที่เริ่มต้นต้องการมีบ้านหลังแรก ระดับราคาไม่ถึงล้านบาท แต่ปัจจุบันไม่พบทาวเฮ้าส์ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งทาวน์เฮาส์ในระดับราคานี้ถูกทดแทนด้วยคอนโดมิเนียม เนื่องจากราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นคุ้มต่อการพัฒนา ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้ จะไม่มีทาวน์เฮาส์ระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทในตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สำหรับทิศทางในอนาคต เชื่อว่าทาวน์เฮาส์ยังเป็นตัวแปรสำคัญของตลาด"นายอิสระ กล่าว

ด้านนายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดมีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มระดับราคา 3-5 ล้านบาท สืบเนื่องจากราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักในการพัฒนาโครงการ และการที่ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้า และคอนโดมิเนียม

ด้วยเหตุนี้จึงทำต้นทุนที่ดินในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้นจากกว่า 10% เป็นกว่า 20% ขณะที่ต้นทุนที่ดินของทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่า ทำให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมก็ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาดทาวน์เฮาส์ในปี 2559 จะมีอัตราการเติบโตจากปี 2558 ที่ประมาณ 10% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2558 มูลค่าตลาดรวมของกลุ่มทาวน์เฮาส์อยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท

"ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ระดับราคาของทาวน์เฮาส์เปลี่ยนไป เช่น เดิมทาวน์เฮาส์ระดับราคาไม่เกิน2 ล้านบาท สามารถหาได้ในพื้นที่บางใหญ่ บางบัวทอง แต่ในอนาคตประมาณ 4-5 ปีต่อจากนี้ ทาวน์เฮาส์ระดับราคานี้จะต้องไปอยู่ในทำเลที่ไกลออกไปอย่างไทรน้อย หรือถนนเส้นจะออกจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ทาวน์เฮาส์ย่านบางใหญ่ บางบัวทองก็จะขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยรวมที่ประมาณ 30% สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มของทาวน์เฮาส์ ในระดับราคา 1-5 ล้านบาทมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 40% และในระดับราคา 5-7 ล้านบาทมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 24%"นายปิยะ กล่าว

ทั้งนี้ในปี 2559 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ใหม่ทั้งหมด 48 โครงการ โดยที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวไปแล้ว 34 โครงการ ที่เหลือจะเปิดในช่วงที่เหลือของปีนี้ และมียอดขาย 9 เดือนจากกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่ 1.7หมื่นล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปี 2.3หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าเมื่อจบปีจะมียอดขายเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 คาดว่าจะเปิดขายโครงการทาวน์เฮาส์ใหม่มากกว่า 50 โครงการ ปัจจุบันมีที่รองรับการพัฒนาครบแล้ว

อนึ่ง จากการรวบรวมข้อมูลของฐานเศรษฐกิจ พบว่า มีผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ใหม่จำนวนมาก รวมถึงบริษัทที่ห่างหายจากการทำตลาดทาวน์เฮาส์อย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ก็หันมารุกตลาดทาวน์เฮาส์อย่างจริงจัง ด้วยการรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด (อ่านรายละเอียดข่าวรีแบรนด์ของแสนสิริหน้า 34)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,199 วันที่ 9 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559