ผู้ค้า‘แอลพีจี’จี้เปิดเสรีนำเข้า ทุกอย่างพร้อมมีตลาดรองรับ

27 ก.ย. 2559 | 07:30 น.
"สยามแก๊ส" จี้กระทรวงพลังงานทดลองเปิดนำเข้าแอลพีจีเสรีนำร่อง 1-4 หมื่นตันต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ ชี้ศักยภาพผู้ค้ามาตรา 7 มีความพร้อม 3-4 ราย ขณะที่ความต้องการใช้แอลพีจีภาคขนส่งลดต่ำไม่ใช่ปัญหา เหตุภาคครัวเรือน-อุตสาหกรรม-ปิโตรเคมียังมีโอกาสเติบโต ขณะที่สนพ.เผยยังไม่ได้ข้อสรุป ติดปัญหาการคำนวณสูตรราคานำเข้า

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ในตลาดโลกที่ลงมาต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ติดต่อกันมา 3 เดือน ปัจจุบันอยู่ที่ 295 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน นับว่าเป็นช่วงจังหวะเหมาะสมที่ภาครัฐควรจะเปิดทดลองนำเข้าก๊าซแอลพีจีอย่างเสรี เนื่องจากเป็นราคาที่ไม่สูงนัก ประกอบกับปริมาณการนำเข้าแอลพีจีในช่วงปลายปีนี้ไม่มากนัก

โดยขณะนี้ผู้ค้าแอลพีจีตามมาตรา 7 ที่มีความพร้อมในการนำเข้า 3-4 ราย รวมถึงผู้ค้ารายเล็กที่จะรวมตัวกันเพื่อนำเข้าแอลพีจี อยากเห็นความชัดเจนนโยบายการนำเข้าแอลพีจีเสรีโดยเร็ว เพราะเป็นช่วงที่ราคาแอลพีจีในตลาดโลกไม่แพง ประกอบกับระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างคลังแอลพีจีส่วนขยายที่เขาบ่อยา จ.ชลบุรี ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 2.5 แสนตัน มีความพร้อมที่จะรองรับการนำเข้าแล้ว ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงควรเปิดทดลองนำเข้าเสรีภายในสิ้นปีนี้
สำหรับสยามแก๊ส ได้ยืนยันมาตลอดว่า มีความพร้อมนำเข้าแอลพีจี ซึ่งล่าสุดทางกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) มีการหารือร่วมกับผู้ค้ามาตรา 7 ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยบริษัทได้มีการแจ้งถึงความพร้อมในการนำเข้าแอลพีจีกับทางกรม ไปแล้ว ซึ่งขณะนี้รอเพียงความชัดเจนจากทางภาครัฐเท่านั้น

ส่วนกรณีปริมาณการนำเข้าแอลพีจีที่ลดลงอย่างมากนั้น และทางกรมฯ ได้แจ้งว่าบางเดือนไม่จำเป็นต้องนำเข้าแอลพีจี ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากตัวเลขการนำเข้าที่ระดับ 1-4 หมื่นตันต่อเดือนเป็นปริมาณที่ไม่น้อยเกินไป และแม้ว่าความต้องการใช้แอลพีจีในภาคขนส่งปรับลดลงอย่างมาก เพราะผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันแทนนั้น ก็ไม่กังวล เนื่องจากความต้องการใช้ในภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม และปิโตรเคมียังมีโอกาสเติบโตสูง นอกจากนี้ บริษัทมีตลาดในต่างประเทศรองรับด้วย จึงเชื่อว่าไม่มีความเสี่ยงในเรื่องนี้

"ส่วนตัวเห็นว่าในปีนี้ ทางกระทรวงพลังงานควรเร่งเปิดนำร่องนำเข้าแอลพีจีเสรี เพราะราคาที่ต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และปริมาณนำเข้าที่ไม่มาก จะทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถรวมตัวกันนำเข้าได้ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง นอกจากนี้เชื่อว่าต้นทุนราคาแอลจีจะปรับลดลง เพราะเมื่อเกิดการแข่งขันย่อมส่งผลดีต่อราคาขายปลีก ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทางภาครัฐมีมาตรการที่ดำเนินการอยู่แล้ว คงไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรเปิดนำเข้าแอลพีจีเสรีภายในสิ้นปีนี้"นางจินตณา กล่าว

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า โรดแมปการดำเนินการเปิดนำเข้าแอลพีจีเสรี เพื่อส่งเสริมการแข่งขันให้มีผู้นำเข้ามากกว่า 1 ราย นอกเหนือจาก ปตท.แล้ว ในเบื้องต้น สนพ. เห็นว่าควรให้เปิดนำเข้าแอลพีจีเสรีแบบมีเงื่อนไข โดยยกเลิกระบบปริมาณโควตา ที่ถูกกำหนดโดยกรมธุรกิจพลังงาน และให้ผู้ค้ารายอื่นๆ สามารถนำเข้าได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องผ่านระบบการประมูลที่ได้วางแผนไว้

ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับผู้ค้ามาตรา 7 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการเปิดนำเข้าแอลพีจีว่าจะสามารถแข่งขันกันอย่างเสรีได้หรือไม่ โดยเฉพาะด้านราคานำเข้าจะทำอย่างไรที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากปัจจุบันใช้สูตรราคานำเข้า CP+85 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หรือเป็นระดับราคาเท่าไรที่เหมาะสมไม่ให้กระทบกับราคาขายปลีกที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่ระดับ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เพื่อนำไปสู่การเปิดนำเข้าแอลพีจีแบบเสรี ซึ่งตามแผนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559