จีนลุย“เศรษฐกิจสีน้ำเงิน”สร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมทางทะเลที่ทันสมัย

24 ต.ค. 2564 | 06:26 น.

​​​​​​​“จีน”ลุยต่อเนื่อง “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน” หลังกำหนดให้เขตเศรษฐกิจคาบสมุทรซานตงสีน้ำเงินเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ ขยายจากเศรษฐกิจทางบกไปสู่เศรษฐกิจทางทะเล

พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้นำเสนอข้อมูลวิเคราะห์กรณีที่นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวถึง “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน” (Blue Economy) โดยเป็นข้อเสนอหนึ่งใน ๖ ข้อ จากการกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาส “ครบรอบ ๓๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์การเจรจาจีน-อาเซียน” เมื่อวันที่ ๘ ต.ค.๖๔ ทั้งนี้ นัยสำคัญของ “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน” (Blue Economy) ตามแนวคิดของจีน มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

๑. ในปี ๒๐๑๑ (พ.ศ.๒๕๕๔) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ "แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจคาบสมุทรซานตงสีน้ำเงิน" อย่างเป็นทางการโดยกำหนดให้ "การก่อสร้างเขตเศรษฐกิจคาบสมุทรซานตงสีน้ำเงิน"  เป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ ซึ่งในปี ๒๐๑๒ (พ.ศ.๒๕๕๕) ที่ประชุมแห่งชาติครั้งที่ ๑๘ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กล่าวถึงเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์และภารกิจหลักในการ "สร้างแสนยานุภาพทางทะเล" อย่างชัดเจน

 

โดยแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาในภูมิภาคของจีนได้ขยายจากเศรษฐกิจทางบกไปสู่เศรษฐกิจทางทะเลและเข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจทางทะเลให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมทั้งผลักดันการพัฒนาทางทะเล

 

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเศรษฐกิจสีน้ำเงินได้กลายเป็นสนามรบหลักสำหรับการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของมณฑลชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของการพัฒนาในอนาคตและได้กลายเป็นจุดเติบโตใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

๒. รัฐบาลจีนได้วางตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ของเขตเศรษฐกิจสีน้ำเงินในคาบสมุทรซานตง คือ การสร้างพื้นที่คลัสเตอร์อุตสาหกรรมทางทะเลที่ทันสมัย พร้อมความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง พื้นที่หลักของการศึกษาวิทยาศาสตร์ทางทะเลและเทคโนโลยีในระดับขั้นสูงของโลก พื้นที่บุกเบิกสำหรับการปฏิรูปและการเปิดทางเศรษฐกิจทางทะเลของชาติ รวมทั้งอารยธรรมนิเวศวิทยาทางทะเลที่สำคัญของชาติ

 

และภายในปี ๒๐๑๕ (พ.ศ.๒๕๕๘) ระบบอุตสาหกรรมทางทะเลที่ทันสมัยในเขตเศรษฐกิจคาบสมุทรสีน้ำเงิน ได้รับการจัดตั้งโดยมีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นอิสระของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเล ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาทางทะเลและทางบกอย่างมีนัยสำคัญ

 

๓. รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงขีดความสามารถของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นพลังสำคัญในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่น โดยใช้ยุทธศาสตร์และภารกิจหลักในการ "สร้างแสนยานุภาพทางทะเล"  ในการดำเนินการอย่างครอบคลุมต่อความร่วมมือระหว่างรัฐบาล - โรงเรียน – องค์กรและนวัตกรรมการทำงานร่วมกัน

 

ตลอดจนส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอุตสาหกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเลอย่างจริงจัง โดยสร้างกลไกการทำงานร่วมกันของนวัตกรรมทางอุตสาหกรรม - มหาวิทยาลัย – การวิจัยและประยุกต์ใช้ ซึ่งจะเสริมสร้างต่อการสร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงิน

 

บทสรุป ในโลกปัจจุบัน เศรษฐกิจสีน้ำเงินได้กลายเป็นจุดสนใจของการพัฒนาทางทะเลทั่วโลก โดยเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนของทางทะเล ดังนั้น ข้อเสนอของจีนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและการปกป้องระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์ "เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ ๒๑"  จึงถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจสีน้ำเงินของจีนกับประเทศต่างๆ 

 

 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.asean-china-center.org/news/xwdt/2021-10/8437.html และเว็บไซต์ https://journal.hep.com.cn/sscae/EN/article/downloadArticleFile.do?attachType=PDF&id=17150 รวมทั้งเว็บไซต์  https://www.ouc.edu.cn/lsjj/listm.htm )