“จีน”กำหนดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์สร้างบุคลากรในยุคใหม่

04 ต.ค. 2564 | 07:55 น.

“จีน”กำหนดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินการในเชิงลึกด้านบุคลากร เพื่อสร้างประเทศที่เข้มแข็งด้านบุคลากรในยุคใหม่ ทั้งเร่งสร้างศูนย์บุคลากรและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ภายในปี 2593

วันนี้(4 ต.ค.64) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ นายสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานประเทศหรือประธานาธิบดีแห่งรัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลาง  เข้าร่วมการประชุมส่วนกลางเกี่ยวกับงานด้านบุคลากรที่กรุงปักกิ่ง  เมื่อวันที่ ๒๗ - ๒๘ ก.ย.๖๔ และกล่าวสุนทรพจน์สำคัญ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

๑. การกำหนดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินการในเชิงลึกด้านบุคลากรที่มีความสามารถตามยุทธศาสตร์การสร้างประเทศที่เข้มแข็งด้านบุคลากรในยุคใหม่ รวมทั้งเร่งสร้างศูนย์บุคลากรและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก เพื่อสนับสนุนความสามารถสำหรับการสร้างความทันสมัยทางสังคมนิยมขั้นพื้นฐานภายในปี ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๗๘) และวางรากฐานความสามารถที่ดีเพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมยุคใหม่ที่เข้มแข็งภายในปี  ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๙๓)

 

๒. แนวทางการดำเนินการในเชิงลึกดังกล่าว ประกอบด้วย

 

(๑) การยึดมั่นในความเป็นผู้นำโดยรวมของงานที่มีความสามารถ

 

(๒) การยึดมั่นในตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ของการพัฒนาชั้นนำที่มีความสามารถ

 

(๓) การยึดมั่นในขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโลกรวมทั้งสนามรบหลักทางเศรษฐกิจ ความต้องการที่สำคัญของประเทศและสุขภาพของประชาชน

(๔) การยึดมั่นในการฝึกอบรมอย่างรอบด้าน เพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถ

 

(๕) การยืนหยัดในการปฏิรูประบบและกลไกการพัฒนาความสามารถอย่างลึกซึ้ง

 

(๖) การยืนกราน ในการรวบรวมความสามารถจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อใช้ประโยชน์

 

(๗) การสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการเรียนรู้และใช้ความสามารถ

 

และ (๘) การยืนหยัดในการส่งเสริมจิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์

 

ทั้งนี้ การดำเนินการตาม ๘ ข้อนั้นถือเป็นความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถของประเทศจีน โดยต้องยึดมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป การกำหนดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินการในเชิงลึกด้านบุคลากรนั้น จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายคือ ภายในปี ๒๐๒๕ (พ.ศ.๒๕๖๘) การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาของทั้งสังคมจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

การสร้างกำลังหลักของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก และระดับการรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจะดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งภายในปี ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๗๘) ประเทศจีนจะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้านความสามารถในหลาย ๆ ด้าน จากความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติและทีมบุลากรที่มีความสามารถระดับสูงจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก

 

ทั้งนี้ การตระหนักรู้พื้นฐานของความทันสมัยทางสังคมนิยมจะให้การสนับสนุนความสามารถของบุคลากรและวางรากฐานความสามารถด้านบุคลากรที่ดีเพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ภายในปี ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๙๓)

 

( ข้อมูลจากเว็บไซต์  http://www.xinhuanet.com/2021-09/28/c_1127913654.htm