120 วันเปิดประเทศ อย่าลืม“ความเสี่ยง”

18 มิ.ย. 2564 | 22:30 น.

120 วันเปิดประเทศ อย่าลืม“ความเสี่ยง” : บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3689 ระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย.2564

 หากนับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เมื่อ 26 มี.ค. 2563 เป็นวันเปิดศึกเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นทางการแล้ว แถลงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อ 16 มิ.ย.2564 ประกาศเป้าหมาย 120 วัน หรือวันที่ 13 ต.ค.2564 นี้ จะกลับมาเปิดประเทศทั้งประเทศ นั่นคือ ประกาศรุกกลับเชื้อโควิด-19 ที่คุกคามโลกและสังคมไทยมาปีกว่า

 การจะกลับมาเปิดประเทศ คือรูปธรรมของการจะคืนกลับสู่ชีวิตปกติ สู่การเปิดเศรษฐกิจจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่กลับมาเปิดดำเนินการได้เช่นที่เคยเป็นมา การประกาศจุดเปลี่ยนสถานการณ์จากที่ถูกเชื้อโควิด-19 ไล่ต้อนให้จนมุม มาเป็นตีโต้กลับ สะท้อนความมั่นใจว่า 4 เดือนจากนี้ รัฐบาลจะสามารถคุมการแพร่ระบาดได้ และบริหารจัดการแผนฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายอย่างต่ำ 50 ล้านคน     

 แถลงการณ์ดังกล่าวมีเสียงตอบรับอื้ออึง โดยเฉพาะจากฝ่ายผู้ประกอบการ ที่แบกรับภาระหลังแอ่นจากผลกระทบการระบาดเชื้อโควิด-19 แล้วสามระลอกจนสายป่านหดสั้นลงเป็นลำดับ ขณะที่หลายรายไปต่อไม่ไหวทะยอยปิดกิจการไปก่อนหน้า คำประกาศ 120 วันกลับมาเปิดประเทศทำให้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจน และปลุกความหวังสร้างบรรยากาศการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขึ้นอีกครั้ง 

 นอกจากประกาศปักธงเปิดประเทศใน 120 วัน  ไล่เรี่ยกันนายกฯประกาศสร้างความชัดเจนทางการเมือง ว่าจะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ดับกระแสยุบสภาเลือกตั้งใหม่ที่กำลังกระหึ่ม เปิดประเด็นแก้ปัญหาหนี้ให้ประชาชนทุกกลุ่มโดยให้หน่วยงานไปศึกษามาเสนอใน 6 เดือน

ขณะที่ครม.ก็มีวาระพิจารณามาตรการด้านเศรษฐกิจเป็นระลอก ทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ การลดเงินจ่ายสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตน และที่กำลังเตรียมพิจารณา อาทิ โครงการพริวิเลจ เฟสติวัล พลัส ดึงดูดนักลงทุนระดับพรีเมี่ยมเข้ามาลงทุนเพิ่ม โครงการเปิดเกาะภูเก็ตเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น

 อย่างไรก็ตาม ควบคู่กับการฟื้นความคึกคักด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องบริหารความเสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้ด้วย เนื่องจากสถานการณ์ยังพลิกผันสูง ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีนที่ล่าสุดจะได้ 105.5 ล้านโดสภายในปีนี้ ก็ไม่แน่ว่าบริษัทวัคซีนจะจัดส่งให้ได้อย่างต่อเนื่องและครบถ้วนตามสัญญา หรือวัคซีนที่ฉีดไปไม่รองรับเชื้อกลายพันธุ์ 

 ขณะที่มีบทเรียนจากหลายประเทศ ที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วเป็นสัดส่วนสูง และกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างคึกคักไปแล้ว ท้ายสุดเกิดการระบาดระลอกใหม่จนต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง ที่เราต้องไม่เดินซ้ำรอย