ลุยแก้ปากท้อง ภาพลวงตาที่(ยัง)ล้างไม่ออก

01 ส.ค. 2562 | 09:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

คอลัมน์ปฏิกริยา...โดย บิ๊กอ๊อด ปากพนัง

 

ทุกวันนี้แม้ว่าจะได้สิทธิ์สวัสดิการ แต่การค้าขายไม่ดีเลย  ข้าวปลาอาหารก็แพงขึ้น สินค้าเกษตรเกือบทุกตัว ข้าว ยาง ปาล์ม  ราคาตกหมดแล้ว เกษตรกร จนแล้วจนอีก หนี้ก็มากขึ้นยังต้องเผชิญกับภัยแล้งอีก

 

วิบากกรรมไม่สิ้นจริงๆ 

 

มิหนำซ้ำคนกลุ่มฐานรากยังถูกซ้ำเติมด้วยการจัดระเบียบสังคม เช่นไล่แม่ค้าแผงลอยต่างๆ ทำให้กลุ่มคนที่ยังพอมีอาชีพอยู่ ต้องสูญเสียอาชีพไป จำนวนคนที่จะมีเงินมาจับจ่ายใช้สอย มาช่วยพยุงเศรษฐกิจ ยิ่งลดจำนวนลง กระทบเป็นโดมิโน กระทั่งรัฐบาลเองก็ออกมายอมรับกลายๆว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีจริง ช่วงที่ผ่านมาเงินไม่ได้สะพัดไปถึงมือประชาชนฐานรากจริงๆ 

 

แม้ตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจของไทยที่หน่วยงานรัฐออกมารายงานจะยังดีอยู่ แต่หากเจาะลึกลงไปรายภูมิภาคแล้วพบว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มคนฐานรากยังเปราะบางเป็นผลมาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำรายได้เกษตรกรไม่เพิ่มขึ้นทำให้การบริโภคไม่ขยายตัว

 

อย่างพื้นที่ด้ามขวานทองภาคใต้ถิ่นกำเนิดผู้เขียนเอง เห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดว่าเศรษฐกิจยังซบเซาผลพวงมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง อย่างยางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้รายได้และกำลังซื้อของคนใต้ลดลงไปด้วย

 

แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีความคาดหวังว่า รัฐบาลประยุทธ์ ภาค 2 จะสามารถฟื้นเศรษฐกิจฟื้นชีวิต ฟื้นความเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้นได้มากกว่านี้

 

หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหารวยกระจุก จนกระจาย แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยดีขึ้นกว่าปี 2557-2558 ตามที่รัฐบาลเคยแถลงไว้ เนื่องจากรัฐบาลมีการลงทุนในโครงการก่อสร้างต่างๆเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาคือรายได้และการขยายตัวทางเศรษฐกิจกลับกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มทุนขนาดใหญ่ผู้ประกอบการรายย่อยเติบโตน้อย 

 

ขณะที่เศรษฐกิจระดับรากหญ้ากลับไม่ดี มีปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง สินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น แต่คุณภาพชีวิตคนส่วนใหญ่แย่ลง 

 

แม้รัฐบาลจะมีการแจกเงินในโครงการประชานิยมต่างๆ แต่โครงการดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดการจ้างงาน จึงไม่เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

ลุยแก้ปากท้อง  ภาพลวงตาที่(ยัง)ล้างไม่ออก

 

ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ ภาค 2 ต้องเร่งทำคือเร่งแก้ปัญหาการว่างงาน เพิ่มเม็ดเงินลงสู่กลุ่มคนฐานราก โดยใช้กลไกระดับท้องถิ่นในการสร้างงานสร้างรายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน 

 

ทั้งหมดนี้คือโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งทำให้เกิดผลเห็นเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ณ วันนี้คนไทยอึดอัดเต็มทีกับภาวะเศรษฐกิจอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ 

 

ข้างนักการเมืองเองก็อย่าลืมทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ ช่วยทำให้เห็นกันสักทีแบบ “รวยกระจาย จนกระจุก” ประชาชนกำลังรออยู่!!

 

อีกประเด็นใหญ่ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ นั่นคือปัญหาความเหลือมล้ำทางสังคม  หากเจาะลึกในประเด็นนี้จะพบว่าเกิดจากโครงสร้างทางสังคมและระบบทุนนิยม โครงสร้างทางภาษี ไม่ได้เก็บภาษีอัตราก้าวหน้า ไม่มีภาษีทรัพย์สิน ไม่ได้เก็บจากฐานทรัพย์สิน ไม่ได้เก็บจากรายได้ หรือความมั่งคั่ง แต่เก็บจากการบริโภค ทำให้ชนชั้นสูง กลาง ล่าง ต่างถูกเก็บอัตราเดียวกัน 

 

ไม่ว่ารายได้จะมากหรือน้อย ทุกคนซื้อน้ำ  1 ขวด ราคาเดียวกัน คนมีทรัพย์สินที่ดินมาก ก็เสียภาษีในสัดส่วนเท่ากันกับคนมีทรัพย์สินน้อย 

 

ขณะที่ในประเทศที่มีรัฐสวัสดิการที่ดี จะจัดเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า ใช้ภาษีทรัพย์สิน เพื่อนำไปช่วยเหลือคนยากจน ทำให้เกิดความทัดเทียมทางสังคม

 

ในปัจจุบันยังมีคนไทยเป็นจำนวนมากที่ควรได้รับสิทธิ์จากสวัสดิการแห่งรัฐกลับไม่ได้รับ ขณะที่บางคนไม่ควรได้รับสิทธิ์กลับได้รับ

ลุยแก้ปากท้อง  ภาพลวงตาที่(ยัง)ล้างไม่ออก

 

มีคนรู้จักของผู้เขียนเล่าว่า มีสตรีคนหนึ่งขับรถเบนซ์เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดเพื่อรับบัตรสวัสดิการ ขณะที่มีประชาชนอีกไม่น้อยทั่วประเทศไม่มีหลักประกันทางสังคมรองรับความเสี่ยงจากการทำงาน 

 

พวกเขาเป็นคนร่อนเร่ไร้บ้าน ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิตามฐานะคนไทยเลย ไม่มีสิทธิ์ตามสวัสดิการแห่งรัฐ  ขณะที่ลูกจ้างเมียนมา กัมพูชา กลับมีรายได้ 9,000 บาทต่อเดือนรวมแล้วสูงกว่าคนไทยที่ยากจนเสียอีก

ลุยแก้ปากท้อง  ภาพลวงตาที่(ยัง)ล้างไม่ออก

 

มีข่าวน่ายินดีว่ากระทรวงการคลังกำลังจัดทำแพ็กเกจโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ เพื่อเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา ซึ่งจะปรับหลักเกณฑ์การเปิดรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย หรือบัตรคนจนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ไห้คนที่มีรายได้สูงเข้ามาสวมสิทธิ์ถือบัตร

 

โดยวิธีการ จะเสนอให้ใช้รายได้ทั้งครัวเรือนประจำปี มาเป็นตัวชี้วัดแทนรายได้ของบุคคล ซึ่งวิธีเดิมกระทรวงการคลังได้ใช้เกณฑ์วัดให้ 1 คน ต้องมีรายได้หรือทรัพย์สินไม่เกิน 1 แสนบาท จึงเข้าร่วมได้ แต่เกณฑ์ใหม่จะวัดรายได้ทั้งครอบครัว เช่น ถ้าครอบครัวมี 4 คน ก็อาจวัดรายได้ครัวเรือนที่ 4 แสนบาท

 

 

อย่างไรก็ตาม จากการปรับหลักเกณฑ์เปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่นี้ กระทรวงการคลังคาดว่า จะทำให้มีผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลดลงไปถึง 1 ใน 3 จากปัจจุบันที่ได้รับสิทธิ์ 14.5 ล้านคน ลดเหลือไม่ถึง 10 ล้านคน ทำให้รัฐสามารถนำงบประมาณไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและมีความจำเป็นจริง ๆ ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ขอเพียงอย่าทำให้ใครต้องตกหล่นไปอีก

 

ก็หวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นความหวังครั้งใหม่ ที่จะเคลียร์ภาพลวงตาที่(ยัง)ล้างไม่ออก