บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป(Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปี 2567 นี้ ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 จะส่งผลให้บริษัท มีกำลังผลิตสูงสุดอยู่ที่ 1.79 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศไทย
ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบ พร้อมเดินเครื่องได้เต็มทั้งปี ภายในปี2568 เป็นการเพิ่มโอกาสการรับงาน รองรับความต้องการลูกค้า ได้มากขึ้น และส่งผลให้บริษัท มี Economy of Scale เพิ่มความสามารถการทํากําไรอย่างมีนัยสําคัญ ถือเป็นโอกาสในการขยาย ฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่นมากขึ้น
สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทได้นำกลยุทธ์สู่ “Green Construction Technology” เป็นการช่วยสนับสนุนการบรรลุปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( Net Zero) ตามเป้าหมายของประเทศอีกทางหนึ่ง
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ CPANEL ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบชุมชน กับการก่อสร้างโครงการ รวมถึงการเดินเคลื่อนจักรโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ให้ปราศจากความเดือดร้อนรำคาญ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกันได้
ทั้งนี้ บริษัทกําหนดเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ๊นท์ที่มาจากการ ดําเนินงานของบริษัท (Carbon Footprint of Organization-CFO) และผลิตภัณฑ์ของบริษัท (Carbon Footprint of Product - CFP) อย่างน้อย 2% ทุกๆ 3 ปี ผ่านการทําโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดให้หาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆหรือวัตถุดิบทดแทนในการผลิต การจัดการลงทุนการติด Solar cell การจัดการทรัพยากรนํ้า และการจัดการขยะ เป็นต้น
สำหรับในปื 2567 บริษัท ได้รับการรับรอง CFP ใน 5 ผลิตภัณท์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรืออบก. ได้แก่
1.ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย 565 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (KgCO 2e)
2.แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป ปริมาณที่ปล่อย 571 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
3.บันไดคอนกรีตสำเร็จรูป ปริมาณที่ปล่อย 726 กิโลกรัมคาร์บอน ไดออกไซด์เทียบเท่า
4.คานคอนกรีตสำเร็จรูป ปริมาณที่ปล่อย 836 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
และ 5.การบริการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ปริมาณที่ปล่อย 16.8 กิโลกรัมคาร์บอน ไดออกไซด์เทียบเท่า
ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งสิ้น 5,838,420.26 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าลดลงจากปีก่อนหน้า 2.69 %
ใบรับรองดังกล่าวช่วยให้ CPANEL สามารถออกรายการคำนวณคาร์บอนให้กับลูกค้า เป็นการสร้างโอกาสที่ดี ช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปรับเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับลูกค้าและเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังถือเป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสากรรมอื่นมากขึ้น
“พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และสถานการณ์โดยรอบเกี่ยวกับโลกร้อนเป็นตัวเร่ง มีผลให้ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับตัว ที่ผ่านมา บริษัทได้วางแผนรองรับทางด้านนี้ไว้นานแล้ว และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับนำผลิตภัณฑ์นำไปสู่การลดคาร์บอน โดยมองว่าผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ลดคาร์บอนจะได้รับความนิยมสูงมากขึ้นโดยเฉพาะในย่านกลางเมือง ที่ต้องการความเร็วในการก่อสร้างแล้วยังลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม”
ขณะที่กระบวนการผลิตทั้งสองโรงงานถือเป็นโรงงาน Precast Concrete ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตสูง ทั้งเรื่องของการออกแบบ ความรวดเร็ว ปริมาณ และคุณภาพ รวมถึงลดความผิดพลาดความสูญเสียในการผลิต ถือเป็นจุดเด่นและข้อได้เปรียบของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเริ่มดำเนินการของโรงงานผลิตแห่งที่ 2 จะยิ่งเพิ่มการบริหารจัดการการควบคุมต้นทุนการผลิตและการขายได้ดีขึ้น
อีกทั้ง มีกระบวนการผลิตที่เร็วกว่าเดิม 30% ใช้แรงงานน้อยกว่าเดิม รวมถึงค่าบริหารจัดการและบุคลากรในกระบวนการผลิตจากเดิม 15% ของรายได้จะลดลงเหลือ 7% โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มโอกาสการรับงานรองรับความต้องการขอลูกค้ามากขึ้น และส่งผลให้บริษัทฯ มี Economy of Scale
เพิ่มความสามารถการทํากําไรอย่างมีนัยสําคัญ ถือเป็นโอกาสในการขยาย ฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมโดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทขยายเข้าไปทั้งโครงภาครัฐ โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ที่จะตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง